ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน ให้การสัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวของ “สถานีโทรทัศน์ Czech TV” ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
2020-08-17
New Southbound Policy。รมว.อู๋ฯ นำเสนอหน้ากากอนามัยที่มีตราสัญลักษณ์ธงชาติของสองประเทศ ที่ผลิตในไต้หวัน เพื่อมอบให้กับคณะตัวแทนรัฐบาลเช็ก ที่มีกำหนดการจะเดินทางมาเยือนไต้หวัน ในเร็ววันนี้ (ภาพจาก MOFA)
รมว.อู๋ฯ นำเสนอหน้ากากอนามัยที่มีตราสัญลักษณ์ธงชาติของสองประเทศ ที่ผลิตในไต้หวัน เพื่อมอบให้กับคณะตัวแทนรัฐบาลเช็ก ที่มีกำหนดการจะเดินทางมาเยือนไต้หวัน ในเร็ววันนี้ (ภาพจาก MOFA)

MOFA วันที่ 15 ส.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์กับ Mr. Jakub Szanto ผู้สื่อข่าวอาวุโสของ “สถานีโทรทัศน์ Czech TV” ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยหัวข้อสำคัญในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ประกอบด้วย ความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน – สาธารณรัฐเช็ก มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ประสบความสำเร็จของไต้หวัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน และประเด็นสถานการณ์ในฮ่องกง เป็นต้น


 

เริ่มต้น ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไต้หวัน – เช็ก และสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนของไต้หวัน โดยรมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ไต้หวัน – เช็กมีความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างใกล้ชิด เช็กเป็นประเทศที่นักธุรกิจไต้หวันเดินทางไปลงทุนเป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคยุโรป โดยอุตสาหกรรมของไต้หวัน อาทิ เครื่องจักรกล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ล้วนแล้วแต่มีศักยภาพในการประสานความร่วมมือกับนานาชาติ โดยเมื่อช่วงที่ผ่านมา Mr. Milos Vystrcil ประธานวุฒิสภาสาธารณรัฐเช็กได้เดินทางเยือนไต้หวัน และได้นำบรรดาตัวแทนผู้ประกอบการเดินทางมาเยือนไต้หวันร่วมด้วย รมว.อู๋ฯ ยินดีเป็นอย่างมากที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายร่วมแลกเปลี่ยนระหว่างกัน เพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าที่เพิ่มมากขึ้น


 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้ระบุถึง การที่ไต้หวันถูกกีดกันให้อยู่นอกระบบขององค์การอนามัยโลก (WHO) ทำให้ไม่สามารถได้รับข้อมูลล่าสุดที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในระยะเริ่มแรก สำหรับประเด็นนี้ รมว. อู๋ฯ ชี้แจงว่า ในขณะนั้นไต้หวันไม่ได้รับข้อมูลล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดได้อย่างทันท่วงที เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2019 จีนมีข่าวลือที่แพร่สะพัดออกมาในประเด็นที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อที่ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด ทางเจ้าหน้าที่ไต้หวันจึงได้ส่งอีเมล์ไปสอบถาม WHO และหน่วยงานสาธารณสุขของจีน ซึ่งต่างก็ไม่ได้รับการตอบกลับที่ชัดเจน แต่เนื่องด้วยบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่จากการแพร่ระบาดของโรคซาร์สเมื่อปี 2003 ที่สร้างความเจ็บปวดให้กับประชาชนทุกหมู่เหล่าในไต้หวัน ทำให้ไต้หวันเกิดกระแสตื่นตัวต่อเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสชนิดพิเศษในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ไต้หวันจึงได้มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) ขึ้นโดยทันที พร้อมทั้งบูรณาการทรัพยากรของแต่ละหน่วยงานภาครัฐในการร่วมกันสกัดกั้นโรคระบาด รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลที่โปร่งใส ซึ่งปัจจัยนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน


 

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้เอ่ยถามถึงประเด็นที่เกี่ยวกับการเดินทางมาเยือนไต้หวันของ Mr. Alex Azar II รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า Mr. Alex เป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูงที่สุดเท่าที่เคยเดินทางมาเยือนไต้หวัน ตลอดระยะเวลากว่า 41 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ นับวันยิ่งมีความแนบแน่นมากยิ่งขึ้น


 

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันมีประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน อีกทั้งยังมีรัฐสภา มีการดำเนินภารกิจด้านการต่างประเทศ อีกทั้งยังมีกองกำลังทหาร และสื่อมวลชนที่มีเสรีภาพ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงการคงอยู่ของไต้หวันโดยสมบูรณ์ หากแต่จีนกลับพยายามข่มขู่ไต้หวันด้วยวิธีการต่างๆ โดยในระหว่างที่รมว.สาธารณสุขของสหรัฐฯ เดินทางมาเยือนไต้หวันนั้น ทางรัฐบาลจีนก็ได้ส่งเครื่องบินรบบินล้ำเส้นกึ่งกลางช่องแคบไต้หวันเพื่อทำการก่อกวน หลังจากที่ประชาธิปไตยของฮ่องกงถูกรุกรานจนเกิดความเสียหาย ไต้หวันก็เกิดความกังวลว่าจีนจะแผ่อิทธิพลอำนาจเผด็จการมายังไต้หวันเป็นอันดับต่อไป ในฐานะที่ไต้หวันเป็นประเทศแนวหน้าที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากจีน นอกจากจะปกป้องประเทศของตนอย่างสุดกำลังแล้ว ยังต้องการที่จะยับยั้งการแผ่อำนาจเผด็จการ รมว.อู๋ฯ เชื่อมั่นว่า ประชาคมโลกจะให้การสนับสนุนแก่ไต้หวันต่อๆ ไปอย่างแน่นอน


 

ก่อนจบการสัมภาษณ์ รมว.อู๋ฯ ได้แสดงความยินดีและขอต้อนรับการเดินทางมาเยือนของภริยา Mr. Jaroslav Kubera อดีตประธานวุฒิสภาของสาธารณรัฐเช็กที่ได้ถึงแก่กรรมไปในช่วงที่ผ่านมา และผู้ว่าการกรุงปราก ภายใต้การนำของMr. Milos Vystrcil ประธานวุฒิสภาสาธารณรัฐเช็ก นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้นำเสนอหน้ากากอนามัยที่ประทับตราธงชาติของสองประเทศ ที่จัดทำขึ้นเพื่อมอบให้กับคณะตัวแทนรัฐบาลเช็กที่มีกำหนดการจะเดินทางมาเยือนไต้หวันในเร็ววันนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า โรคระบาดไม่สามารถขวางกั้นมิตรภาพอันแข็งแกร่งระหว่างไต้หวัน – เช็กได้แล้ว ยังเป็นการให้ความร่วมมือตามมาตรการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ในระหว่างที่คณะตัวแทนรัฐบาลเช็กเดินทางเข้าสู่ไต้หวันอีกด้วย