ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
CECC เร่งติดตามและตรวจสอบการแพร่ระบาดโควิด – 19 ภายในประเทศ ตามข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศว่า มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด – 19 เดินทางกลับจากไต้หวัน
2020-08-20
New Southbound Policy。CECC แถลงว่า ทางการไต้หวันจะดำเนินการตรวจสอบการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ภายในประเทศ ตามข้อมูลที่ทางการได้รับแจ้งจากหน่วยงานต่างประเทศว่า มีผู้ที่เดินทางกลับจากไต้หวัน ที่มีผลการตรวจคัดกรองยืนยันว่าติดเชื้อโควิด – 19 (ภาพจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ)
CECC แถลงว่า ทางการไต้หวันจะดำเนินการตรวจสอบการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ภายในประเทศ ตามข้อมูลที่ทางการได้รับแจ้งจากหน่วยงานต่างประเทศว่า มีผู้ที่เดินทางกลับจากไต้หวัน ที่มีผลการตรวจคัดกรองยืนยันว่าติดเชื้อโควิด – 19 (ภาพจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ)

CECC วันที่ 19 ส.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) แถลงว่า ทางการไต้หวันได้รับแจ้งจากหน่วยประสานงาน IHR ของประเทศลาว ที่ระบุว่า ทางการลาวได้ตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด - 19 ที่เดินทางกลับจากไต้หวัน จำนวน 1 ราย


 

CECC ชี้แจงว่า ผู้ป่วยยืนยันรายดังกล่าวเป็นชายสัญชาติลาว วัย 30 ปีเศษ ได้เดินทางเข้าไต้หวันเมื่อวันที่ 15 ก.พ. และเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ทางภาคเหนือของไต้หวัน เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ได้ขอเข้ารับการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 โดยเสียค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งผลการตรวจเป็นลบ หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 11 ส.ค. เขาได้เดินทางออกจากไต้หวันและรอเปลี่ยนเครื่องที่เกาหลีใต้ เดินทางกลับถึงประเทศลาวและรับการตรวจคัดกรองเมื่อวันที่ 12 ส.ค. โดยผลการตรวจที่ออกมาในวันที่ 13 ส.ค.พบว่าเป็นบวก

 

CECC ระบุว่า ผู้ป่วยยืนยันรายดังกล่าวไม่มีอาการต้องสงสัยใดๆ ในระหว่างที่พำนักอยู่ในไต้หวันและหลังจากที่เดินทางกลับประเทศตราบจนกระทั่งปัจจุบัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว พบว่า ในระหว่างที่เขาพำนักอยู่ในไต้หวัน นอกจากภายในรั้วสถาบันและบริเวณโดยรอบแล้ว ขอบเขตการทำกิจกรรมนอกรั้วสถาบันของเขา ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือ ตราบจนปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ CECC ได้ติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยดังกล่าวได้ทั้งหมด 8 ราย ประกอบด้วย ผู้สัมผัสใกล้ชิดภายในรั้วสถาบันและภายในหอพัก ในจำนวนนี้ มี 3 รายที่ต้องกักตัวอยู่ในเคหสถาน 5 รายต้องสังเกตสุขภาพของตนอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายนี้อย่างละเอียดต่อไป


 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวที่ระบุว่า เวียดนามและนครเซี่ยงไฮ้ของจีนต่างทยอยตรวจพบ ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด – 19 ที่เดินทางกลับจากไต้หวัน หลังจากทราบข่าว CECC ได้ติดต่อขอข้อมูลผู้ป่วยยืนยันชาวเวียดนามจากสำนักงานตัวแทนไต้หวันในต่างประเทศโดยทันที และได้ทราบว่า ผู้ป่วยยืนยันรายนี้เป็นแรงงานชายสัญชาติเวียดนาม วัย 40 ปีเศษ ทำงานในเขตพื้นที่ทางภาคเหนือของไต้หวัน และได้เดินทางออกจากไต้หวันเพื่อกลับเวียดนามเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ผลการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 ในท่าอากาศยานไต้หวันเป็นลบ แต่หลังจากที่เดินทางกลับถึงเวียดนามแล้ว ได้ถูกกักตัวในสถานกักกันโรคที่ทางการเวียดนามจัดเตรียมไว้ โดยสถานกักกันโรคเวียดนามจัดให้เข้าพักห้องละ 3 คน ผู้ถูกกักตัวต้องรับประทานอาหารร่วมกัน จากที่ได้ทำการตรวจสอบ พบว่า ผู้เข้ารับการกักตัวอีก 2 คนในห้องเดียวกับผู้ป่วยรายดังกล่าว เป็นชาวเวียดนามที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งทั้งคู่เริ่มมีอาการต้องสงสัยนับตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. หลังจากเข้ารับการตรวจคัดกรอง ได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด – 19 อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยยืนยันรายข้างต้นเริ่มมีอาการเจ็บคอ เป็นไข้ และปวดท้อง นับตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. เป็นต้นมา หลังจากเข้ารับการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 ในวันที่ 17 ส.ค. ผลการตรวจเป็นบวก สำหรับกรณีผู้ป่วยชาวเวียดนามรายนี้ ทาง CECC และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ จะดำเนินการตรวจสอบการแพร่ระบาดภายในประเทศ และติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ต่อไป เพื่อดำเนินมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างรัดกุม


 

สำหรับกรณีผู้ป่วยยืนยันชาวเซี่ยงไฮ้ ขณะนี้ทางการไต้หวันยังไม่ได้รับการตอบกลับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีน แต่ CECC ได้รับการติดต่อกลับจากเพื่อนชาวไต้หวันของผู้ป่วยรายดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งได้รับข้อมูลเบื้องต้นของผู้ป่วยรายนี้แล้ว โดยจะทำการตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลกับทางการจีนต่อไป ตลอดจนจะดำเนินการตรวจสอบการแพร่ระบาดในประเทศ และติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายดังกล่าวต่อไปด้วยเช่นกัน