MOEA วันที่ 31 ส.ค. 63
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. Mr. Milos Vystrcil ประธานวุฒิสภาสาธารณรัฐเช็กได้เดินทางเข้าร่วม “การประชุมสัมมนาว่าด้วยเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน ระหว่างไต้หวัน – เช็ก ปี 2020” (Taiwan – Czech Republic Economic, Trade and Investment Forum) ที่กระทรวงเศรษฐการ (Ministry of Economic Affairs, MOEA) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น และร่วมเป็นสักขีพยานกับนายกงหมิงซิน ประธานคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ (National Development Council, NDC) และนางหวังเหม่ยฮัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือ 3 ประการระหว่างไต้หวัน – เช็ก ซึ่งนับเป็นการเปิดฉากความร่วมมือครั้งใหม่ระหว่างไต้หวัน – เช็กในด้านเทคโนโลยี Artificial Intelligence of Things (AIoT) เมืองอัจฉริยะ เครื่องจักรอัจฉริยะ และการประสานความเชื่อมโยงระหว่างชุมชนสตาร์ทอัพอย่างใกล้ชิด
MOEA แถลงว่า การนำคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวันของ Mr. Milos ในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงการให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรม โดยรัฐบาลไต้หวันและธุรกิจภาคเอกชนต่างให้ความสำคัญกับการแสวงหาโอกาสความร่วมมือกับเช็กในเชิงลึก โดยคาดหวังว่าจะนำมาซึ่งผลสัมฤทธิ์ทางความร่วมมือที่โดดเด่นมากมายในภายภาคหน้า
สำนักงาน Invest Taiwan ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเศรษฐการ เป็นเจ้าภาพจัด “การประชุมสัมมนาว่าด้วยเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน ระหว่างไต้หวัน – เช็ก ปี 2020” ขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 180 คน ประสบความสำเร็จในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านอุตสาหกรรมระหว่างไต้หวัน – เช็ก ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการทำความเข้าใจกับโอกาสทางธุรกิจใหม่ในยุคหลังโควิด – 19 Mr. Milosในฐานะแขกอาคันตุกะได้กล่าวชื่นชมยอมรับผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันขณะปราศรัย พร้อมกล่าวว่า ภายใต้บริบทที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ทั้งไต้หวันและเช็กยังคงสามารถเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนแบบทวิภาคีได้อย่างต่อเนื่อง กระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าในเชิงลึก พัฒนาโอกาสธุรกิจระหว่างประเทศ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย นางหวังฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดการประชุมสัมมนาในครั้งนี้จะสามารถส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบการไต้หวัน – เช็ก กระตุ้นให้ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายประสานความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น
การประชุมสัมมนาในครั้งนี้มุ่งประเด็นไปที่ 3 อุตสาหกรรมหลัก ประกอบด้วย “เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)” “เศรษฐกิจสีเขียว” และ “นวัตกรรมใหม่” ซึ่งนอกจากจะสอดคล้องกับโครงการอุตสาหกรรมนวัตกรรม 5 + 2 และยุทธศาสตร์ 6อุตสาหกรรมหลักของไต้หวันแล้ว ยังเป็นอุตสาหกรรมหลักที่รัฐบาลเช็กกำหนดขึ้นเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศตลอดช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เพื่อเสริมสร้างให้ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายประสานความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม กรมการค้าระหว่างประเทศ (BOFT) กระทรวงเศรษฐการ และสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA) ได้ร่วมจัด “กิจกรรมการจับคู่ธุรกิจระหว่างไต้หวัน – เช็ก” ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมข้างต้น โดยมีผู้ประกอบการเช็กจำนวน 33 ราย และผู้ประกอบการไต้หวันนับร้อยรายเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ อีกทั้งได้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจแบบตัวต่อตัว รวม 150 รอบ ภายใต้บริบทในการให้ความร่วมมือกับกฎระเบียบด้านการป้องกันโรคระบาด
