สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ ASVDA และ IDC ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในประเทศ จัดตั้งช่องทางการแลกเปลี่ยนและจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยและอินโดนีเซีย กระตุ้นให้เกิดการจับคู่ทางภาคอุตสาหกรรมและโอกาสความร่วมมือแบบทวิภาคี
♦ อุตสาหกรรมเมืองอัจฉริยะได้กลายเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการเล็งเห็นความสำคัญและเข้าร่วมลงทุนกันอย่างกระตือรือร้น
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ASVDA วันที่ 4 ก.ย. 63
เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการไต้หวันในการรุกขยายตลาดเข้าสู่ไทยและอินโดนีเซีย เพื่อแสวงหาโอกาสธุรกิจในด้านเมืองอัจฉริยะ สำนักงานพัฒนาเอเชียซิลิคอนวัลเลย์ (Asia Silicon Valley Development Agency, ASVDA) และบริษัทสำรวจข้อมูลนานาชาติ (International Data Corporation, IDC) ได้ประสานความร่วมมือกันจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ ภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างไทยกับอินโดเซีย : แสวงหาโอกาสธุรกิจเมืองอัจฉริยะที่ไร้ขีดจำกัด” ทั้งนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในประเทศจัดตั้งช่องทางการแลกเปลี่ยนและจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยและอินโดนีเซีย กระตุ้นให้เกิดการจับคู่ทางภาคอุตสาหกรรมและโอกาสความร่วมมือแบบทวิภาคี พร้อมทั้งสำแดงขีดความสามารถและทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ทางด้านอุตสาหกรรมเมืองอัจฉริยะของไต้หวัน โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้ดึงดูดผู้ประกอบการนับร้อยคนจากทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมกันอย่างคึกคัก
ตลอดหลายปีมานี้ ประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ถูกมองว่าเป็นตลาดที่เปี่ยมด้วยศักยภาพในการพัฒนา เนื่องด้วยขนาดเศรษฐกิจ รายได้เฉลี่ยของประชาชน และการปันผลทางประชากร อีกทั้งประเทศเหล่านี้ต่างกำลังเร่งผลักดันโครงการเมืองอัจฉริยะ และเสริมสร้างการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง อาจกล่าวได้ว่าอุตสาหกรรมเมืองอัจฉริยะได้กลายเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการเล็งเห็นความสำคัญและเข้าร่วมลงทุนกันอย่างกระตือรือร้น โดยการประชุมในครั้งนี้ได้เชิญคุณประภัสสร เพชรแก้ว นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ IDC แห่งประเทศไทย และ Ms. Mevira Munindra ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัยของ IDC แห่งอินโดนีเซีย เข้าร่วมแบ่งปันข้อมูลจากการสังเกตการณ์ด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในพื้นที่และสภาพแวดล้อมการลงทุน เพื่อชี้แนะให้ผู้ประกอบการเกิดความเข้าใจต่อความต้องการของตลาดในพื้นที่มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เชิญให้ผู้ประกอบการ 3 รายที่ประสบความสำเร็จในการรุกขยายตลาดสู่ประเทศเป้าหมายนโยบายมุ่งใต้ใหม่ เข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความร่วมมือระหว่างประเทศและโซลูชันเมืองอัจฉริยะ ประกอบด้วย บริษัท Mind & Idea Fly Co.,Ltd. บริษัทGlobal Microgrid Technologies Limited และบริษัท iKala
นายเจิ้งเจินเม่า ประธานกรรมการบริหาร ASVDA กล่าวว่า หลายปีมานี้ ASVDA มุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการไต้หวันในการรุกขยายตลาดสู่ประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่อย่างกระตือรือร้น โดยในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ASVDA ได้นำคณะผู้ประกอบการสตาร์ทอัพเดินทางไปเข้าร่วมนิทรรศการ Startup Thailand ปี 2018 และนิทรรศการนวัตกรรมเทคโนโลยีและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจของไต้หวัน ปี 2019 เพื่อนำเสนอโซลูชันในด้านการเกษตรอัจฉริยะและการจราจรอัจฉริยะ
นอกจากนี้ บริษัท Global Microgrid Technologies Limited ยังได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การรุกขยายตลาดเข้าสู่มาเลเซีย ไทย เวียดนาม และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการผลักดันแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน โดยทางบริษัทฯ ได้ผนวกเทคโนโลยีบล็อกเชน ( blockchain) โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart grid) และระบบการเงินแบบดิจิทัล (Digital Finance) เข้าไว้ด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับบริษัท iKala ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในด้าน Cloud for Marketing ที่สามารถเจาะตลาดอาเซียนโดยใช้สื่อโซเชียลเป็นตัวช่วยในการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ก็ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบข้ามประเทศ โดยในปัจจุบันบริษัท iKala ได้ตั้งรากฐานธุรกิจในไทยเป็นหลัก และมีแผนการที่จะขยายตลาดไปสู่อินโดนีเซียในภายภาคหน้า
กิจกรรมในครั้งนี้ได้ผนวกรวมนิทรรศการเมืองอัจฉริยะ (SCSE) ปี 2020 รูปแบบออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน โดยหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะอัปโหลดวิดีโอการประชุมลงบนเว็บไซต์ https://reurl.cc/R1020z เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สนใจเข้ารับชมในภายหลัง
