ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ไต้หวัน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ร่วมจัด “ค่ายฝึกอบรมนานาชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19”ภายใต้กรอบ GCTF
2020-10-29
New Southbound Policy。นายไช่ชิงเสียง (ที่ 3 จากซ้าย) รมว. ยุติธรรม นายเถียนจงกวง (ที่ 1 จากซ้าย) รมช. ต่างประเทศ นายลวี่เหวินจง (ที่ 2 จากซ้าย) อธิบดีกรมสอบสวน Mr. Raymond Greene (ที่ 2 จากขวา) รองผอ.สถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป และMr. Yokochi Akira (ที่ 1 จากขวา) รักษาการผู้แทนญี่ปุ่นฯ สมาคมแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่น – ไต้หวัน ถ่ายภาพร่วมกัน (ภาพจาก MOFA)
นายไช่ชิงเสียง (ที่ 3 จากซ้าย) รมว. ยุติธรรม นายเถียนจงกวง (ที่ 1 จากซ้าย) รมช. ต่างประเทศ นายลวี่เหวินจง (ที่ 2 จากซ้าย) อธิบดีกรมสอบสวน Mr. Raymond Greene (ที่ 2 จากขวา) รองผอ.สถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป และMr. Yokochi Akira (ที่ 1 จากขวา) รักษาการผู้แทนญี่ปุ่นฯ สมาคมแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่น – ไต้หวัน ถ่ายภาพร่วมกัน (ภาพจาก MOFA)

สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ กระทรวงการต่างประเทศ กรมสอบสวนกระทรวงยุติธรรม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) สถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป (AIT- Taipei office) สมาคมแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่น – ไต้หวัน และสำนักงานตัวแทนรัฐบาลออสเตรเลียประจำกรุงไทเป ได้ร่วมกันจัด “ค่ายฝึกอบรมนานาชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19)” (Workshop on Combating COVID-19 Related Crimes) ภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF

♦ กิจกรรมในครั้งนี้มีส่วนช่วยในการจัดตั้งเครือข่ายความมั่นคงปลอดภัย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องในระหว่างสถานการณ์โรคโควิด – 19 ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือที่เปี่ยมด้วยเสถียรภาพ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความผันผวนของสถานการณ์โรคโควิด – 19
-------------------------------------------
MOFA วันที่ 28 ต.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. กระทรวงการต่างประเทศ กรมสอบสวนกระทรวงยุติธรรม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) สถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป (AIT- Taipei office) สมาคมแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่น – ไต้หวัน และสำนักงานตัวแทนรัฐบาลออสเตรเลียประจำกรุงไทเป ได้ร่วมกันจัด “ค่ายฝึกอบรมนานาชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19)” (Workshop on Combating COVID-19 Related Crimes) ภายใต้กรอบความร่วมมือและฝึกอบรมนานาชาติ (Global Cooperation and Training Framework, GCTF) ปี 2020 ณ กรุงไทเป โดยมีนายไช่ชิงเสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายเถียนจงกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายลวี่เหวินจง อธิบดีกรมสอบสวน กระทรวงยุติธรรม Mr. Raymond Greene รองผู้อำนวยการสถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป (AIT/T) และ Mr. Yokochi Akira รักษาการผู้แทนญี่ปุ่นฯ สมาคมแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่น – ไต้หวัน เข้าร่วมในพิธีเปิดกิจกรรมพร้อมกล่าวปราศรัย นอกจากนี้ Mr. Gary Cowan ผู้แทนรัฐบาลออสเตรเลียประจำไต้หวัน ก็ได้ร่วมกล่าวปราศรัยผ่านการบันทึกคลิปวิดีโอแบบล่วงหน้าด้วยเช่นกัน

 

รมช.เถียนฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า สถานการณ์โรคโควิด – 19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั่วโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งในด้านการบังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายรูปแบบ อาทิ การแพร่ข่าวปลอม การผลิตและจำหน่ายหน้ากากอนามัยปลอม และการกักตุนชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่ผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากไต้หวันสามารถรับมือได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงทำให้สาธารณชนได้รับผลกระทบที่ไม่รุนแรงมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ในยุคของโลกไร้พรมแดน โรคระบาดและการก่ออาชญากรรมไร้ขอบเขตจำกัด ทั่วโลกจึงจำเป็นต้องร่วมแรงร่วมใจกันในการปราบปราม รมช. เถียนฯ ชี้แจงว่า กิจกรรมในครั้งนี้มีส่วนช่วยในการจัดตั้งเครือข่ายความมั่นคงปลอดภัยว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องในระหว่างสถานการณ์โรคโควิด – 19 ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือที่เปี่ยมด้วยเสถียรภาพ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความผันผวนของสถานการณ์โรคโควิด – 19

 

ทั้งนี้ ค่ายฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นกิจกรรมครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นภายใต้ประเด็นความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมาย นับตั้งแต่ที่มีการจัดตั้งกรอบความร่วมมือ GCTF เป็นต้นมา สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด- 19 ค่ายฝึกอบรมในปีนี้จึงได้จัดขึ้นทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากกรมสอบสวนจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าร่วมในที่ประชุมแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญอีก 300 กว่าคนจาก 31 ประเทศเข้าร่วมการประชุมผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ตูวาลู กัวเตมาลา ปารากวัย เป็นต้น กิจกรรมในครั้งนี้แบ่งเป็น 5 รอบ โดยบุคลากรจากนานาประเทศได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์เพื่อแสวงหาแนวทางในการปราบปรามอาชญากรรมที่เกิดจากโรคระบาดอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนเสริมสร้างพลังแห่งความร่วมมือในด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างไต้หวันและประชาคมโลกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น