สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ ไต้หวันยึดมั่นเสนอแนวทางในการธำรงรักษาสถานภาพในปัจจุบัน รวมถึงสันติภาพในภูมิภาค โดยรัฐบาลไต้หวันยินดีที่จะเปิดการเจรจากับจีน ภายใต้หลักการความเท่าเทียมและสันติภาพ
♦ ไต้หวันมิได้เป็นเพียงประเทศเดียวที่ถูกข่มขู่อันเนื่องมาจากการแผ่ขยายอิทธิพลของจีน แต่ยังรวมถึงญี่ปุ่น อินเดีย และประเทศโดยรอบในแถบทะเลจีนใต้ ซึ่งล้วนแต่ได้รับผลกระทบจากการขยายอำนาจของจีน จนต้องยกระดับการเฝ้าระวังให้เกิดความรัดกุมมากยิ่งขึ้น
♦ หลังจากที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ประเทศต่างๆ ในยุโรปต่างก็เล็งเห็นว่า ผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันเป็นที่ประจักษ์แก่นานาชาติ จึงทำให้หลายประเทศในยุโรปหันมากระชับมิตรกับไต้หวันเพิ่มมากขึ้น
-------------------------------------------
MOFA วันที่ 2 พ.ย. 63
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Mr. Pablo Diez ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ “El Diario ABC” ที่ได้รับมอบหมายให้ประจำอยู่ในภูมิภาคเอเชีย โดยเนื้อหาการสัมภาษณ์ได้รับการเผยแพร่ในรูปแบบถาม – ตอบ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นหัวข้อที่ประกอบด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ความคิดเห็นที่ประเทศในภูมิภาคยุโรปมีต่อไต้หวันหลังยุคโควิด – 19 รวมถึงการเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน เป็นต้น
กรณีพฤติกรรมคุกคามไต้หวันด้วยกําลังทหารของจีน รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า รัฐบาลไต้หวันรู้สึกกังวลต่อทิศทางความเคลื่อนไหวของกองกำลังทหารจีน นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังชี้ว่า ในระหว่างที่ Mr. Alex Azar II รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ เดินทางมาเยือนไต้หวันเมื่อช่วงที่ผ่านมานั้น ทางรัฐบาลจีนได้ส่งเครื่องบินทหารรุกล้ำเส้นแบ่งเขตน่านฟ้ากึ่งกลางช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นการข่มขู่สถานภาพในปัจจุบันของสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน รวมถึงเป็นการทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ไต้หวันมิได้เป็นเพียงประเทศเดียวที่ถูกข่มขู่อันเนื่องมาจากการแผ่ขยายอิทธิพลของจีน แต่ยังรวมถึงญี่ปุ่น อินเดีย และประเทศโดยรอบในแถบทะเลจีนใต้ ซึ่งล้วนแต่ได้รับผลกระทบจากการขยายอำนาจของจีน จนต้องยกระดับการเฝ้าระวังให้เกิดความรัดกุมมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ไต้หวันได้ยึดมั่นเสนอแนวทางในการธำรงรักษาสถานภาพในปัจจุบัน รวมถึงสันติภาพในภูมิภาค โดยรัฐบาลไต้หวันยินดีที่จะเปิดการเจรจากับจีน ภายใต้หลักการความเท่าเทียมและสันติภาพ แต่ในทางกลับกัน หากมองในส่วนของจีน เมื่อปี 2005 รัฐบาลจีนได้ผ่านกฎหมายต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน อีกทั้งเมื่อปีที่แล้วยังได้เสนอแผน “1 ประเทศ 2 ระบบ สำหรับไต้หวัน” ที่ประชาชนชาวไต้หวันแสดงความไม่เห็นพ้องด้วย รมว.อู๋ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันกับไต้หวันจะร่วมกันเป็นกระบอกเสียงให้กับไต้หวันในการเรียกร้อง ไม่ให้จีนกระทำการใดๆ ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงสถานภาพในปัจจุบัน
รมว.อู๋ฯ กล่าวขณะให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ประเทศต่างๆ ในยุโรปต่างก็เล็งเห็นว่า ผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดและคุณประโยชน์ที่ไต้หวันได้อุทิศให้กับประชาคมโลก เป็นที่ประจักษ์แก่นานาชาติ จึงทำให้หลายประเทศในยุโรปหันมากระชับมิตรกับไต้หวันเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ประเทศในยุโรปต่างก็เล็งเห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทั่วโลกนั้นมีความเกี่ยวพันโดยตรงกับการไม่รับผิดชอบต่อโรคระบาดและความไม่โปร่งใสของรัฐบาลจีน โดยรมว.อู๋ฯ ได้เรียกร้องต่อประชาคมโลกขณะให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้ทุกประเทศร่วมสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) ที่มีกำหนดการจะจัดขึ้นในเร็ววันนี้ พร้อมเน้นย้ำว่า สิทธิมนุษยชนชาวไต้หวัน 23 ล้านคนไม่ควรถูกมองข้าม
นสพ. El Diario ABC ก่อตั้งมาเป็นเวลานานกว่า 117 ปี และเป็นแหล่งข่าวที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรกในสเปน ยอดตีพิมพ์เฉลี่ยต่อวันมากกว่า 50,000 ฉบับ มีจำนวนผู้อ่านรวมทั้งหมด 460,000 คน และมีจำนวนผู้เข้าชมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 22 ล้านคนครั้ง