สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. นี้เป็นต้นไป มาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ จึงขอให้ผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าสู่ไต้หวันแนบใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบก่อนออกเดินทางไม่เกิน 3 วันต่อเคาน์เตอร์เช็คอินในท่าอากาศยานนานาชาติ
♦ หากผู้โดยสารไม่สามารถแสดงหลักฐานใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบได้ แต่มีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับ 3 สถานการณ์ดังต่อไปนี้ ถือเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวันโดยไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย
1. สถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
2. ผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่ไม่สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองแบบเสียค่าใช้จ่ายเองได้
3. กรณีพิเศษที่หน่วยงานต่างๆ ในไต้หวันยื่นขออนุมัติจาก CECC
-------------------------------------------
กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ วันที่ 25 พ.ย. 63
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ทั่วโลกนับวันยิ่งลุกลามเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น ประกอบกับเทศกาลคริสต์มาส ช่วงปิดภาคการศึกษาฤดูหนาว และเทศกาลตรุษจีนใกล้เวียนมาบรรจบ โดยทางการไต้หวันคาดว่าจะมีประชาชนชาวไต้หวันเดินทางกลับประเทศเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างหลักประกันทางความมั่นคงในการป้องกันโรคระบาดให้กับผู้โดยสาร กัปตันและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน รวมถึงประชาชนในชุมชนต่างๆ ของไต้หวัน นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. นี้เป็นต้นไป มาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ จึงขอให้ผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าสู่ไต้หวันแนบใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบก่อนออกเดินทางไม่เกิน 3 วันต่อเคาน์เตอร์เช็คอินในท่าอากาศยานนานาชาติ
CECC แถลงว่า ก่อนการเดินทาง หากผู้โดยสารไม่สามารถแสดงหลักฐานใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบได้ แต่มีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับ 3 สถานการณ์ดังต่อไปนี้ ถือเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวันโดยไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิ์ได้รับการผ่อนปรนประกอบด้วย ชาวไต้หวัน ชาวต่างชาติรวมถึงชาวจีน ฮ่องกงและมาเก๊าที่มีบัตรถิ่นที่อยู่ (ARC) ที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทยไต้หวัน แต่ไม่สามารถใช้ได้กับผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานของไต้หวัน
ทั้งนี้ 3 สถานการณ์ข้างต้นประกอบด้วย :
1. สถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน อาทิ การเข้าร่วมพิธีฌาปนกิจศพ (จำกัดให้เฉพาะเครือญาติใน 2 ลำดับแรกเท่านั้น) การเข้าเยี่ยมผู้ป่วยขั้นวิกฤต (จำกัดให้เฉพาะเครือญาติใน 2 ลำดับแรกเท่านั้น) และกรณีที่ผู้โดยสารรายนั้นๆ ต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน ขอให้ลงนามในหนังสือรับรองเพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน พร้อมแนบเอกสารประกอบการพิจารณา อาทิ ใบมรณบัตร หนังสือแจ้งเตือนภาวะวิกฤตของโรคประจำตัว หรือใบรับรองแพทย์ เป็นต้น ต่อเคาน์เตอร์เช็คอินในท่าอากาศยาน พร้อมทั้งเข้าประจำที่นั่งที่เจ้าหน้าที่สายการบินกำหนดไว้ให้ หลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองโดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
2. ผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่ไม่สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองแบบเสียค่าใช้จ่ายเองได้ อาทิ ประเทศในทวีปโอเชียเนีย ประกอบด้วย ตูวาลู นีวเว สาธารณรัฐฟิจิ และราชอาณาจักรตองงา เป็นต้น จึงขอให้ผู้โดยสารลงนามในหนังสือรับรองเพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน ในขณะทำการเช็คอิน พร้อมทั้งเข้าประจำที่นั่งที่เจ้าหน้าที่สายการบินกำหนดไว้ให้ หลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรอง โดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
3. กรณีพิเศษที่หน่วยงานต่างๆ ในไต้หวันยื่นขออนุมัติจาก CECC : หากเป็นการติดต่อการค้าหรือการติดต่อหน่วยงานภาครัฐในระยะสั้นที่มีความจำเป็นเร่งด่วน พร้อมทั้งเป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือในมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัดในขณะที่พำนักในต่างประเทศ ขอให้ผู้โดยสารลงนามในหนังสือรับรอง พร้อมแนบเอกสารที่ระบุถึงการได้รับอนุมัติให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวันจากทางการไต้หวันต่อเคาน์เตอร์เช็คอินก่อนขึ้นเครื่อง พร้อมทั้งเข้าประจำที่นั่งที่เจ้าหน้าที่สายการบินกำหนดไว้ให้ หลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ต้องให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดตามกรณีที่ได้รับอนุมัติ
CECC อธิบายว่า หากพบว่ามีผู้โดยสารที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบก่อนออกเดินทางไม่เกิน 3 วัน และมีคุณสมบัติที่ไม่สอดคล้องกับ 3 สถานการณ์ข้างต้น ผู้โดยสารรายนั้นๆ นอกจากต้องเข้าประจำที่นั่งที่เจ้าหน้าที่สายการบินกำหนดไว้ให้แล้ว ยังจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองโดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองในทันทีที่เดินทางถึงไต้หวัน และไม่สามารถยื่นขอเงินชดเชยสำหรับการป้องกันโรคระบาดได้ อีกทั้งยังต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันโรคระบาดมาตราที่ 58 – 69 โดยมีโทษปรับเป็นเงินตั้งแต่ 10,000 – 150,000 เหรียญไต้หวัน นอกจากนี้ หากผู้โดยสารรายนั้นถูกตรวจพบว่าเป็นผู้ป่วยยืนยันที่ติดเชื้อโควิด – 19 และเป็นพาหะแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ก็จะมีความผิดในทางอาญาด้วย