สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วม “พิธีเริ่มดำเนินการสร้างเรือดำน้ำที่ผลิตในไต้หวัน” พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า เรือดำน้ำที่ผลิตขึ้นเองในประเทศจะประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ตลอดจนเป็นการยกระดับแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศโดยพึ่งพาตนเองอีกด้วย
♦ หลังจากที่รัฐบาลไต้หวันได้ตัดสินใจผลิตเรือดำน้ำด้วยตนเองแล้ว พวกเราก็ได้เดินหน้าจัดสรรงบประมาณ เซ็นสัญญา ออกแบบแปลนเรือดำน้ำ และจัดสร้างอู่ต่อเรือดำน้ำ โดยในทุกขั้นตอนล้วนแต่เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในด้านการป้องกันประเทศของไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรม
♦ การสร้างเรือดำน้ำในครั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาคมโลกมองเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของไต้หวันในการธำรงรักษาอำนาจอธิปไตยให้คงอยู่สืบไป
-------------------------------------------
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 24 พ.ย. 63
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 พ.ย. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางเข้าร่วม “พิธีเริ่มดำเนินการสร้างเรือดำน้ำที่ผลิตในไต้หวัน” ณ CSBC Corporation ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือของไต้หวันที่ตั้งอยู่ในนครเกาสง โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า การเริ่มดำเนินการสร้างเรือดำน้ำในวันนี้มีนัยสำคัญหลายประการ ทั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวของรัฐบาลไต้หวันที่ต้องการจะบรรลุเป้าหมายการป้องกันประเทศด้วยตนเอง ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาคมโลกเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของไต้หวันในการธำรงรักษาอำนาจอธิปไตยให้คงอยู่สืบไป ปธน.ไช่ฯ มีความเชื่อมั่นว่า เรือดำน้ำที่ผลิตขึ้นเองในประเทศจะประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ตลอดจนเป็นการยกระดับแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศโดยพึ่งพาตนเองอีกด้วย
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า เมื่อมองย้อนกลับไปยังตลอด 4 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลไต้หวันได้ตัดสินใจผลิตเรือดำน้ำด้วยตนเองแล้ว พวกเราก็ได้เดินหน้าจัดสรรงบประมาณ เซ็นสัญญา ออกแบบแปลนเรือดำน้ำ และจัดสร้างอู่ต่อเรือดำน้ำ โดยในทุกขั้นตอนล้วนแต่เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในด้านการป้องกันประเทศของไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรม นับแต่วันนี้เป็นต้นไป เรือดำน้ำที่ผลิตในไต้หวัน (Made in Taiwan) ก็พร้อมที่จะเริ่มดำเนินการสร้างตัวเรือแล้ว
ปธน.ไช่ฯ ได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อบริษัท CSBC สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจงซาน (National Chong-San Institute of Science and Technology, NCSIST) และเหล่าพี่น้องทหารกองทัพเรือ ที่ได้ร่วมสร้างคุณูปการด้านการป้องกันประเทศให้กับไต้หวันอย่างแข็งขัน และทำให้อุดมการณ์ที่มีร่วมกันของไต้หวันบรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ พิธีปฐมฤกษ์ในครั้งนี้มีนัยสำคัญหลายประการ ดังนี้
พิธีปฐมฤกษ์ในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวของรัฐบาลไต้หวันที่ต้องการจะบรรลุเป้าหมายการป้องกันประเทศด้วยตนเอง เนื่องจากสันติภาพต้องอาศัยศักยภาพทางกลาโหม ส่วนศักยภาพทางกลาโหมที่แข็งแกร่ง นอกจากจะต้องอาศัยเหล่าทหารหาญของกองทัพแล้ว ยังต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ตลอดหลายปีมานี้ ไต้หวันได้มุ่งมั่นพัฒนายุทโธปกรณ์ที่ผลิตในประเทศอย่างกระตือรือร้น อาทิ การสร้างเรือลาดตระเวณ Tuo River class corvette ที่ในขณะนี้ได้เข้าสู่กระบวนการเร่งผลิตในปริมาณมาก การบินทดสอบของเครื่องบินฝึกไอพ่นสมรรถนะสูงT-5 Brave Eagle มาจนถึงการสร้างเรือดำน้ำที่ผลิตในไต้หวันในครั้งนี้ ล้วนแต่เป็นการสื่อให้เห็นถึง ศักยภาพด้านการป้องกันประเทศด้วยตนเองของไต้หวัน ได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้าไปทีละขั้นในทุกๆ วัน
นอกจากนี้ การสร้างเรือดำน้ำในครั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาคมโลกมองเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของไต้หวันในการธำรงรักษาอำนาจอธิปไตยให้คงอยู่สืบไป ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราจะสามารถเห็นได้ว่า เรือดำน้ำถือเป็นศักยภาพด้านกลาโหมของกองทัพเรือที่ไม่ค่อยได้รับการพัฒนาให้เกิดความเท่าเทียม หากแต่สิ่งนี้เป็นยุทโธปกรณ์ที่สำคัญในการสกัดกั้นข้าศึกปิดล้อมเกาะไต้หวัน
ขณะนี้ การสร้างเรือดำน้ำที่ผลิตในไต้หวันได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ปธน.ไช่ฯ จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงกลาโหม NCSIST และบริษัท CSBC ประสานการติดต่อระหว่างกันอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมวางแนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยงด้วยความระมัดระวังอย่างสูงสุด เพื่อให้ไต้หวันได้รับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีคุณภาพ ตามวันเวลาที่กำหนดไว้ต่อไป