สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Mr. Stan Grant พิธีกรรายการ Behind the Wall ซึ่งเป็นรายการข่าวต่างประเทศของบรรษัทกระจายเสียงแห่งประเทศออสเตรเลีย (Australia Broadcasting Corporation, ABC)
♦ ประเด็นในการร่วมหารือ ประกอบด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ออสเตรเลีย ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐอเมริกาหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา
♦ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ยึดมั่นในทัศนคติเชิงบวกที่เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนควบคู่กับความแข็งแกร่งในการจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ซึ่งนี่เป็นแนวทางที่รัฐบาลไต้หวันประยุกต์ใช้เพื่อรักษาสถานภาพปัจจุบันของสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน
-------------------------------------------
MOFA วันที่ 1 ธ.ค. 63
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Mr. Stan Grant พิธีกรรายการ Behind the Wall ซึ่งเป็นรายการข่าวต่างประเทศของบรรษัทกระจายเสียงแห่งประเทศออสเตรเลีย (Australia Broadcasting Corporation, ABC) โดยบทสัมภาษณ์ข้างต้นได้ถูกเผยแพร่ผ่านทางโทรทัศน์และรายงานข่าวบนอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยในระหว่างการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ รมว.อู๋ฯ ได้ร่วมหารือเชิงลึกในประเด็นต่างๆ กับพิธีกร อาทิ ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ออสเตรเลีย ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐอเมริกาหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา
ในระหว่างการตอบคำถามในประเด็นที่ว่า ไต้หวันมีวิธีการอย่างไรในการเผชิญหน้ากับการรุกรานจากจีน รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ไต้หวันตั้งอยู่ในแนวหน้าที่ต้องเผชิญกับการข่มขู่ด้วยกำลังทางทหารและการแผ่ขยายอำนาจเผด็จการของจีนอยู่เป็นประจำ สิ่งที่ไต้หวันสามารถทำได้คือ การสำแดงให้เห็นถึงความตั้งใจแน่วแน่ในการปกป้องประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งคาดหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึกและการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองกับประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย ทั้งนี้ เพื่อธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกให้ดำเนินต่อไปอย่างยั่งยืน โดยไต้หวันยังได้แสดงให้ประชาคมโลกเห็นว่า นอกจากจะปกป้องรักษาดินแดนของตนอย่างสุดกำลังแล้ว ยังต้องการที่จะปกป้องค่านิยมสากลที่มีร่วมกันในด้านประชาธิปไตยให้คงอยู่สืบต่อไปด้วยเช่นกัน
รมว.อู๋ฯ ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2016 ที่ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็นต้นมา ท่านได้ยึดมั่นในทัศนคติเชิงบวกที่เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนควบคู่กับความแข็งแกร่งในการจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายจากนานาประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ซึ่งนี่เป็นแนวทางที่รัฐบาลไต้หวันประยุกต์ใช้เพื่อรักษาสถานภาพปัจจุบันของสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน
ทั้งนี้ รมว.อู๋ฯ ได้ยกกรณีตัวอย่างที่รัฐบาลออสเตรเลียให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวัน – ออสเตรเลียที่นับวันยิ่งมีความแนบแน่นมากขึ้น พร้อมนี้รมว.อู๋ฯ ยังได้แสดงความคาดหวังว่า หวังว่าในอนาคตทั้งสองฝ่ายจะสามารถร่วมกันจัดตั้งกลไกการเจรจาด้านความมั่นคงปลอดภัยรวมถึงข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับทวิภาคี (ECA) เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนแบบทวิภาคีในเชิงลึกต่อไป
ต่อกรณีที่จีนใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping, AD) ต่อออสเตรเลียในช่วงที่ผ่านมา รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ตนรู้สึกไม่พอใจที่เห็นจีนใช้มาตรการทางการค้าในการสร้างความกดดันต่อออสเตรเลีย พร้อมร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่ไต้หวันต้องเผชิญหน้ากับการข่มขู่ทางเศรษฐกิจจากจีนตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ตลอดจนเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียผนึกกำลังกับประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อเผชิญหน้ากับความกดดันจากจีน
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งปธน.ของสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา รมว.อู๋ฯ ระบุว่า การให้การสนับสนุนไต้หวันเป็นฉันทามติร่วมกันของสหรัฐฯ แบบไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย โดยหลายปีมานี้ สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ได้ผ่านญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวันหลายรายการ อาทิ “กฎหมายการเดินทางไต้หวัน” (Taiwan Travel Act) และ “กฎหมาย Taipei Act” เป็นต้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนและการให้ความสำคัญต่อไต้หวันของทั้งสองพรรคการเมืองของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา นางเซียวเหม่ยฉิน ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำสหรัฐฯ ได้เจรจาหารือผ่านทางโทรศัพท์กับ Mr. Anthony Blinken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ของสหรัฐฯ โดยไต้หวันเชื่อว่า หลังจากที่รัฐบาลไบเดนขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว ไต้หวัน – สหรัฐฯ จะยังคงสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนในด้านต่างๆ ระหว่างกันต่อไปได้อย่างใกล้ชิดเช่นเคย
ลิงก์การให้สัมภาษณ์ของรมว.อู๋ฯ : https://www.youtube.com/watch?v=tKFPoPYu7Ww&feature=youtu.be