ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
CECC เพิ่มกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการยกเว้นให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวัน ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว โดยไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย แต่ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองโดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง และให้ความร่วมมือในการกักตัวอย่างเคร่งครัด
2020-12-03
New Southbound Policy。CECC แถลงว่า มาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวได้เพิ่มกลุ่มผู้โดยสารที่ได้รับการยกเว้นเป็นกลุ่มที่ 4 โดยผู้โดยสารกลุ่มนี้ต้องเซ็นหนังสือรับรองพร้อมแนบเอกสารยืนยัน โดยหลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองโดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง จึงจะถือเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวันโดยไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย (ภาพจาก CNA)
CECC แถลงว่า มาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวได้เพิ่มกลุ่มผู้โดยสารที่ได้รับการยกเว้นเป็นกลุ่มที่ 4 โดยผู้โดยสารกลุ่มนี้ต้องเซ็นหนังสือรับรองพร้อมแนบเอกสารยืนยัน โดยหลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองโดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง จึงจะถือเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวันโดยไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย (ภาพจาก CNA)

สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมาเป็นวันแรกที่ไต้หวันได้มีการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ

♦ สำหรับประชาชนชาวไต้หวันบางส่วน ชาวต่างชาติรวมถึงชาวจีน ฮ่องกงและมาเก๊าที่มีบัตรถิ่นที่อยู่ (ARC) ที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทยไต้หวัน ที่มีความลำบากในการยื่นขอใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด – 19 ในต่างประเทศ ขณะนี้ CECC ได้ทำการรวบรวมข้อมูลสถิติอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเพิ่มกลุ่มผู้โดยสารในหมวดที่ 4 ที่ได้รับการยกเว้น

♦ ในกลุ่มที่ 4 นั้น CECC กำหนดให้ “กลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่ประกาศโดย CECC” ต้องเซ็นหนังสือรับรองและแนบเอกสารยืนยัน โดยหลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวต้องให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองโดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง จึงจะถือเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวันโดยไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย
-------------------------------------------
กรมควบคุมโรค วันที่ 2 ธ.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) แถลงว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมาเป็นวันแรกที่ไต้หวันได้มีการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ โดยเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เดินทางเข้ามาสู่ไต้หวันภายในวันที่ 1 ธ.ค. มีจำนวนทั้งหมด 26 เที่ยวบิน แบ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวนจำนวน 25 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานซงซานจำนวน 1 เที่ยวบิน ซึ่งจากเที่ยวบินทั้งหมดนี้ มีผู้โดยสารขาเข้ารวมเป็นจำนวน 1,141 คน ซึ่งทุกคนล้วนแต่ให้ความร่วมมือต่อมาตรการข้างต้นอย่างเคร่งครัด ไม่พบมีกรณีฝ่าฝืนต่อมาตรการดังกล่าว ในจำนวนนี้ มีผู้โดยสาร 2 คนที่ไม่มีใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด – 19 อย่างไรก็ตาม หนึ่งในนั้นเป็นผู้ที่ได้รับอนุมัติเป็นกรณีพิเศษจาก CECC ส่วนอีกคนได้แสดงใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบก่อนเข้าเช็คอินต่อเคาน์เตอร์ในท่าอากาศยานนานาชาติ แต่หลักฐานดังกล่าวได้สูญหายระหว่างทางที่เดินทางมายังไต้หวัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากบริษัทสายการบิน โดยได้รับการยืนยันว่าเป็นข้อมูลตามความเป็นจริง อย่างไรก็ดี ผู้โดยสาร 2 รายดังกล่าวต่างยินดีให้ความร่วมมือในการเข้าตรวจคัดกรองโดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง พร้อมทั้งจะทำการกักตัวในเคหสถานตามกฎระเบียบของมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด

 

CECC แถลงว่า สำหรับประชาชนชาวไต้หวันบางส่วน ชาวต่างชาติรวมถึงชาวจีน ฮ่องกงและมาเก๊าที่มีบัตรถิ่นที่อยู่ (ARC) ที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทยไต้หวัน ที่มีความลำบากในการยื่นขอใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด – 19 ในต่างประเทศ ขณะนี้ CECC ได้ทำการรวบรวมข้อมูลสถิติอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเพิ่มกลุ่มผู้โดยสารในหมวดที่ 4 ที่ได้รับการยกเว้น ต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ CECC ได้ประกาศให้ผู้โดยสาร 3 กลุ่มสามารถได้รับการยกเว้นแสดงใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบ ก่อนการเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน ประกอบด้วย (1) สถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน (2) ผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่ไม่สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองแบบเสียค่าใช้จ่ายเองได้ และ (3) กรณีพิเศษที่หน่วยงานต่างๆ ในไต้หวันยื่นขออนุมัติจาก CECC โดยในกลุ่มที่ 4 นั้น CECC กำหนดให้ “กลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่ประกาศโดย CECC” ต้องเซ็นหนังสือรับรองและแนบเอกสารยืนยัน โดยหลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวต้องให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองโดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง จึงจะถือเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวันโดยไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย โดยกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มที่ 4 ประกอบด้วย ดังนี้ :

 

1. ผู้ที่เดินทางออกจากไต้หวันและเดินทางกลับเข้าสู่ไต้หวันภายใน 3 วัน : ต้องแสดงหลักฐานที่แนบอยู่ในหนังสือเดินทางที่ระบุวันที่ออกเดินทางจากไต้หวัน หรือตั๋วเครื่องบินในเที่ยวบินขาออก ซึ่งประการหลังใช้สำหรับผู้ที่ผ่านเข้า - ออกทางประตูตรวจสอบอัตโนมัติ (e-Gate) หรือผู้ที่ไม่ได้รับการบันทึกข้อมูลการเดินทางเข้าออกลงในหนังสือเดินทาง

 

2. ทารกและเด็กอายุระหว่าง 0- 6 ปี (หรือยังไม่ครบ 7 ปีบริบูรณ์) : ต้องแสดงหนังสือเดินทางของทารกและเด็ก หรือหลักฐานประกอบการพิจารณาที่สามารถระบุให้เห็นถึงวันเกิดของเด็กผู้นั้นได้อย่างชัดเจน

 

3. ใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด – 19 หมดอายุ เนื่องมาจากเที่ยวบินถูกยกเลิกกระทันหัน : ผู้โดยสารต้องแนบข้อมูลการจองตั๋วของเที่ยวบินเดิมและใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด – 19 ที่เพิ่งหมดอายุ

 

4. ผู้ติดตามใกล้ชิดในกรณีของผู้ที่ขอรับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน หรือกลุ่มผู้โดยสารที่ได้รับการยกเว้นเป็นกลุ่มแรก ต้องแนบหลักฐานแสดงตนอย่างครบถ้วน

 

CECC ระบุเพิ่มเติมว่า หากประชาชนชาวไต้หวัน ชาวต่างชาติรวมถึงชาวจีน ฮ่องกงและมาเก๊าที่มีบัตร ARC มีคุณสมบัติที่ไม่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายทั้ง 4 ประการข้างต้น ประกอบกับไม่สามารถยื่นขอใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด – 19 ได้ในต่างประเทศ ผู้โดยสารรายนั้นๆ จำเป็นต้องกรอกข้อมูลที่ระบุเหตุผลอย่างชัดเจนก่อนการเช็คอิน และหลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองโดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง หากตรวบสอบพบในภายหลังว่าเป็นข้อมูลเท็จหรือขัดต่อกฎระเบียบในมาตรการฯ จะต้องได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป

 

CECC ยืนยันหนักแน่นว่า สำหรับชาวต่างชาติรวมถึงชาวจีน ฮ่องกงและมาเก๊าที่ไม่ได้ถือบัตร ARC จำเป็นต้องแสดงหลักฐานใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบ จึงจะสามารถเดินทางเข้าสู่ไต้หวันได้