สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ ปธน.ไช่ฯ ตอบรับคำเชิญของ “สถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติของสหรัฐฯ” (National Democratic Institute, NDI) เข้าร่วมแสดงปาฐกถาผ่านการบันทึกคลิปวิดีโอ เนื่องในวาระการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองประชาธิปไตยประจำปี 2020 ของ NDI
♦ ปธน.ไช่ฯ รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ทั่วโลกมีเพียงไม่กี่ประเทศ ที่ในทุกปีภายในประเทศจะสามารถเห็นประชาชนหลายแสนคน จับมือเดินขบวนพาเหรดเพื่อส่งเสริมและเฉลิมฉลองความเสมอภาคทางเพศและการสมรสระหว่างกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน ได้อย่างเช่นที่ไต้หวันและสหรัฐฯ
♦ ในเดือนสิงหาคมปีนี้ ไต้หวันได้มีการจัดตั้ง “คณะกรรมการกิจการสิทธิมนุษยชน” ขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อตรวจสอบและเสริมสร้างหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนของชาวไต้หวัน
♦ ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ เป็นทั้งมิตรสหายและหุ้นส่วนที่ดีต่อกัน โดยทั้งสองพรรคการเมืองของสหรัฐฯ ต่างได้บรรลุฉันทามติร่วมกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ รวมถึงการเสริมสร้างความเชื่อมโยงในค่านิยมสากลระหว่างกันในเชิงลึกต่อไป
-------------------------------------------
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 9 ธ.ค. 63
เมื่อเวลาประมาณ 05:00 น. ของวันที่ 9 ธ.ค. ตามเวลาในกรุงไทเป หรือเทียบเป็นเวลา 16:00 น. ของวันที่ 8 ธ.ค. ตามเวลาตะวันออกของสหรัฐ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ตอบรับคำเชิญของ “สถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติของสหรัฐฯ” (National Democratic Institute, NDI) เข้าร่วมแสดงปาฐกถาผ่านการบันทึกคลิปวิดีโอ เนื่องในวาระการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองประชาธิปไตยประจำปี 2020 ของ NDI (2020 NDI Celebration of Democracy Gala)
ในระหว่างการแสดงปาฐกถา ปธน.ไช่ฯ นอกจากจะร่วมแสดงความยินดีกับ Ms. Kamala Devi Harris ที่ได้ขึ้นเป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ แล้ว ยังได้แสดงความยินดีกับ Ms. Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ที่ได้รับรางวัลการส่งเสริมประชาธิปไตยของ NDI พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้ร่วมแบ่งปันเรื่องราวประชาธิปไตยของไต้หวันในการแสดงปาฐกถาในครั้งนี้อีกด้วย
สาระสำคัญของเนื้อหาการแสดงปาฐกถาผ่านการบันทึกคลิปวิดีโอของปธน.ไช่ฯ มีดังนี้ :
ปธน.ไช่ฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในกิจกรรมเฉลิมฉลองประชาธิปไตยประจำปีของสถาบัน NDI แห่งสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้ร่วมแบ่งปันเรื่องราวการเป็นผู้นำด้านประชาธิปไตย หรือที่ Mr. John Lewis สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ผู้ล่วงลับได้เคยให้นิยามไว้ว่าเป็น “ความยุ่งยากที่ดี” (good trouble)
ปธน.ไช่ฯ รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ทั่วโลกมีเพียงไม่กี่ประเทศ ที่ในทุกปีภายในประเทศจะสามารถเห็นประชาชนหลายแสนคน จับมือเดินขบวนพาเหรดเพื่อส่งเสริมและเฉลิมฉลองความเสมอภาคทางเพศและการสมรสระหว่างกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน ได้อย่างเช่นที่ไต้หวันและสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ความพยายามของพวกเราจะไม่หยุดอยู่แต่เพียงเท่านี้ ในเดือนสิงหาคมปีนี้ ไต้หวันได้มีการจัดตั้ง “คณะกรรมการกิจการสิทธิมนุษยชน” ขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อตรวจสอบและเสริมสร้างหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนของชาวไต้หวัน
เมื่อช่วงที่ผ่านมา สภานิติบัญญัติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการสิทธิมนุษยชนชุดใหม่ โดยมีภารกิจมุ่งเน้นไปที่ประเด็นการแก้ไขร่างกฎหมายว่าด้วยการปรับลดอายุของผู้ที่มีสิทธิออกเสียงในภาคประชาสังคม รวมถึงการปรับโครงสร้างองค์กรของภาครัฐ เป็นต้น หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาในระดับชาติว่าด้วยการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมแล้ว พวกเราจะทำการปฏิรูปอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อส่งเสริมให้กระบวนการยุติธรรมมีความยุติธรรม โปร่งใส และมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้ชี้แจงถึงบทบาทหน้าที่ของ “มูลนิธิส่งเสริมประชาธิปไตยของไต้หวัน” (Taiwan Foundation for Democracy, TFD) ในการส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนให้สามารถบรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรมในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก โดยก่อนหน้านี้ ทาง TFD ได้ให้ความช่วยเหลือแก่สถาบัน NDI และสถาบันอินเตอร์เนชั่นแนลรีพับลิกัน (International Republican Institute, IRI) ของสหรัฐฯ ในการจัดตั้งสำนักงานในกรุงไทเป โดยไต้หวันเป็นประเทศแนวหน้าที่ยืนหยัดปกป้องค่านิยมประชาธิปไตยอย่างแข็งขันมาเป็นเวลานาน อนึ่ง ปธน.ไช่ฯ ขอแสดงความชื่นชมและยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจจัดตั้งสำนักงานในกรุงไทเปของ 2 สถาบันข้างต้น มา ณ ที่นี้ด้วย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เส้นทางแห่งการเป็นประชาธิปไตยของไต้หวันไม่ราบรื่นนัก อำนาจอธิปไตยที่พวกเราต่อสู้เพื่อให้ได้มา มีคนบางกลุ่มมองว่านั่นเป็นการข่มขู่ และคิดว่านั่นเป็นบ่อเกิดแห่งความขัดแย้งอันนำมาซึ่งปัญหาความแตกแยกระหว่างกัน
อย่างไรก็ตาม พวกเราชาวไต้หวันขอแสดงความขอบคุณต่อสหรัฐฯ ที่ได้ให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่นตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นทั้งมิตรสหายและหุ้นส่วนที่ดีต่อกัน โดยทั้งสองพรรคการเมืองของสหรัฐฯ ต่างได้บรรลุฉันทามติร่วมกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ รวมถึงการเสริมสร้างความเชื่อมโยงในค่านิยมสากลระหว่างกันในเชิงลึกต่อไป ส่งผลให้ประชาชนชาวไต้หวันรู้สึกวางใจและเกิดความสบายใจเป็นอย่างมาก ปธน.ไช่ฯ มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ในระหว่างที่ทั้งสองประเทศกำลังแสวงหาทิศทางความร่วมมือในมิติใหม่นั้น มิตรภาพระหว่างสองประเทศจะได้รับการยกระดับให้เกิดความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นควบคู่ไปด้วย