สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ รองปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) กล่าวว่า มาตรฐานการแพทย์ของไต้หวันอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม อีกทั้งเพรียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติในการพัฒนาไปสู่การแพทย์แม่นยำและประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีด้านการป้องกันโรคระบาดในภายภาคหน้าต่อไป

♦ ประเด็นการหารือใน “การประชุมสุดยอดการแพทย์นานาชาติ” ในปีนี้ครอบคลุมในเชิงกว้าง มุ่งเน้นไปในด้านการแพทย์แม่นยำ เซลล์บำบัด การปลูกถ่ายอวัยวะ รวมถึงการสกัดกั้นโรคโควิด – 19 เป็นหลัก
-------------------------------------------
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 13 ธ.ค. 63

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “การประชุมสุดยอดการแพทย์นานาชาติ” ที่จัดขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 60 ปีแห่งการก่อตั้งมหาวิทยาลัยการแพทย์ไทเป (Taipei Medical University, TMU) ในปี 2020 โดยระบุว่า มาตรฐานการแพทย์ของไต้หวันอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม อีกทั้งเพรียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติในการพัฒนาไปสู่การแพทย์แม่นยำและเทคโนโลยีด้านการป้องกันโรคระบาดในภายภาคหน้าต่อไป รองปธน.ไล่ฯ เน้นย้ำในระหว่างที่กล่าวถึงวัคซีนการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) โดยระบุว่า รัฐบาลจะมุ่งมั่นพยายามต่อไปในการสร้างหลักประกันสุขภาพที่ดีให้กับสาธารณชนในประเทศ ด้วยการจัดซื้อวัคซีนกับต่างประเทศควบคู่ไปกับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ

รองปธน.ไล่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า การประชุมสุดยอดการแพทย์นานาชาติในครั้งนี้เปี่ยมด้วยความหมายที่พิเศษยิ่ง นอกจากจะประจวบกับวาระครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยการแพทย์ไทเป (TMU) แล้ว ยังเป็นปีที่ทั่วโลกต่างต้องเผชิญหน้ากับโรคระบาดรุนแรงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในรอบร้อยปี โดยประเด็นการหารือในการประชุมปีนี้ครอบคลุมในเชิงกว้าง มุ่งเน้นไปในด้านการแพทย์แม่นยำ เซลล์บำบัด การปลูกถ่ายอวัยวะ รวมถึงการสกัดกั้นโรคโควิด – 19 เป็นหลัก

รองปธน.ไล่ฯ ชี้ว่า มาตรฐานการแพทย์ของไต้หวันอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม อีกทั้งเพรียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติในการพัฒนาไปสู่การแพทย์แม่นยำและเทคโนโลยีด้านการป้องกันโรคระบาดในภายภาคหน้าต่อไป ซึ่งจะเห็นได้จากการที่พวกเรามีระบบประกันสุขภาพแห่งชาติที่สมบูรณ์ มีข้อมูลในระบบประกันสุขภาพในจำนวนมหาศาล และมีฐานข้อมูลทางชีววิทยาของมนุษย์ระดับนานาชาติหลายแห่ง นอกจากนี้ ไต้หวันยังมีความล้ำหน้าในเทคโนโลยีการตรวจคัดกรอง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจพันธุกรรม การตรวจหาเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ การตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสและเซลล์มะเร็ง เป็นต้น

นอกจากนี้ รองปธน.ไล่ฯ ยังได้ชี้แจงในกรณีวัคซีนโรคโควิด – 19 โดยระบุว่า รัฐบาลไต้หวันจะมุ่งมั่นดำเนินการในภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

ประการแรก รัฐบาลจะจัดซื้อวัคซีนกับต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ

ประการที่สอง ระบบการจัดซื้อของพวกเรา ใช้มาตรฐานเดียวกันต่อบริษัทผลิตวัคซีนทั้งในและต่างประเทศ

ประการที่สาม รัฐบาลไต้หวันพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทผลิตวัคซีนทั้ง 4 รายในประเทศอย่างเต็มกำลัง

ภายใต้การนำของนายเฉินสือจง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาวัคซีน รวมถึงให้ความช่วยเหลือในการรวบรวมกรณีศึกษา โดยในทุกสัปดาห์รัฐบาลจะดำเนินการตรวจสอบรายงานความคืบหน้าที่ยื่นเสนอโดยบริษัทผลิตวัคซีน นอกจากนี้ สถาบันวิจัยแห่งชาติ (Academic Sinica) และสถาบันวิจัยสุขภาพแห่งชาติ (National Health Research Institutes, NHRI) ก็ได้ให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทผลิตวัคซีนอย่างเต็มที่ ด้วยการนำผลสัมฤทธิ์ที่ได้เข้าทำการทดลองกับสัตว์ทดลอง และการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก เป็นต้น

รองปธน.ไล่ฯ เน้นย้ำว่า หากในระหว่างการวิจัยและพัฒนา บริษัทผลิตวัคซีนของไต้หวันต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากรัฐบาล รัฐบาลจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยทันที ทั้งนี้ เพื่อร่วมสร้างหลักประกันสุขภาพที่ดีให้กับสาธารณชนภายในประเทศ ด้วยการจัดซื้อวัคซีนกับต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ