สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ตามเขตเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามบังคับใช้ “กฎหมายงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประจำปี 2021” โดยกฎหมายฉบับนี้ได้มีการกำหนดให้สาระสำคัญของ “ร่างกฎหมายว่าด้วยหลักประกันไต้หวัน ปี 2020” เข้าเป็นส่วนหนึ่งในญัตติ
♦ สาระสำคัญของ “ร่างกฎหมายว่าด้วยหลักประกันไต้หวัน ปี 2020” ที่ระบุไว้ในกฎหมายงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประกอบด้วย การอนุมัติจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ไต้หวันเป็นประจำ ให้การสนับสนุนไต้หวันในการเข้ามีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในองค์การระหว่างประเทศ รวมถึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เร่งพิจารณาทบทวนแนวทางการติดต่อแลกเปลี่ยนกับไต้หวัน
♦ เป็นครั้งแรกที่กฎหมายงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้มีการระบุเนื้อหาว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้สำหรับการผลักดันกิจกรรมที่เกี่ยวข้องภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF โดยได้มีการกำหนดวงเงินงบประมาณสูงสุดไว้ที่ 3 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
-------------------------------------------
MOFA วันที่ 28 ธ.ค. 63
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ตามเขตเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามบังคับใช้ “กฎหมายงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประจำปี 2021” โดยกฎหมายฉบับนี้ได้มีการกำหนดให้สาระสำคัญของ “ร่างกฎหมายว่าด้วยหลักประกันไต้หวัน ปี 2020” (Taiwan Assurance Act of 2020) เข้าเป็นส่วนหนึ่งในญัตติ พร้อมจัดสรรงบประมาณจำนวนเงิน 3 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้สำหรับการผลักดันกรอบความร่วมมือและฝึกอบรมนานาชาติ (Global Cooperation and Training Framework, GCTF) แสดงให้เห็นถึงการให้การสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ อย่างหนักแน่นของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยกระทรวงการต่างประเทศ (Ministry of Foreign Affairs, MOFA) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริง
สาระสำคัญของ “ร่างกฎหมายว่าด้วยหลักประกันไต้หวัน ปี 2020” ที่ระบุไว้ในกฎหมายงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประกอบด้วย การอนุมัติจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ไต้หวันเป็นประจำ อันจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพในการป้องกันประเทศ ตลอดจนให้การสนับสนุนไต้หวันในการเข้ามีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในองค์การระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เร่งพิจารณาทบทวนแนวทางการติดต่อแลกเปลี่ยนกับไต้หวัน พร้อมทั้งต้องรายงานการสรุปผลการพิจารณาทบทวน และสถานการณ์ความคืบหน้าในการดำเนินการตาม “กฎหมายการเดินทางไต้หวัน” (Taiwan Travel Act) ต่อสภาคองเกรสด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่กฎหมายงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้มีการระบุเนื้อหาว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้สำหรับการผลักดันกิจกรรมที่เกี่ยวข้องภายใต้กรอบความร่วมมือ GCTF โดยได้มีการกำหนดวงเงินงบประมาณสูงสุดไว้ที่ 3 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการที่ไต้หวัน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น จะขยายขอบเขตความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนกับประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ผ่านแพลตฟอร์ม GCTF ในอนาคตต่อไป
กต.ไต้หวัน ขอแสดงความขอบคุณต่อหน่วยงานบริหารของสหรัฐฯ และสมาชิกรัฐสภาแบบข้ามพรรค ที่ให้การสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ อย่างเป็นรูปธรรม โดยรัฐบาลไต้หวันจะยึดมั่นในหลักการความเชื่อถือและเอื้อผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ในการประสานความร่วมมือกับสหรัฐฯ ภายใต้พื้นฐานที่มีอยู่เดิมต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนระดับโลกในด้านต่างๆ ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ในเชิงลึกสืบต่อไป