ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กต.ไต้หวันจัดการสัมมนาว่าด้วยพลังผู้นำของเหล่าเยาวชนหลังยุคโควิด - 19
2020-12-31
New Southbound Policy。เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายเถียนจงกวง (กลาง) รมช.ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วมสร้างปฏิสัมพันธ์กับเหล่านักศึกษาชาวต่างชาติในงานราตรีแห่งการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม (ภาพจาก MOFA)
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายเถียนจงกวง (กลาง) รมช.ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วมสร้างปฏิสัมพันธ์กับเหล่านักศึกษาชาวต่างชาติในงานราตรีแห่งการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม (ภาพจาก MOFA)

สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ รมช.ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) กล่าวว่า แม้ว่าในปี 2020 ทั่วโลกจะประสบกับความท้าทายอย่างไม่สิ้นสุด แต่ไต้หวันกลับสามารถสำแดงความยืดหยุ่นออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสาธารณชนที่พำนักอาศัยอยู่ในไต้หวันได้ร่วมกันสรรค์สร้างความมหัศจรรย์ด้านสาธารณสุขให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก

♦ “การสัมมนาว่าด้วยพลังผู้นำของเหล่าเยาวชนในยุคหลังโควิด – 19” ที่จัดโดยกต.ไต้หวัน มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันหารือบทบาทของเยาวชนที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์โลกหลังยุคโควิด – 19 ใน 3 แง่มุมหลัก ประกอบด้วย ศิลปวัฒนธรรม การแพทย์สาธารณสุข และเทคโนโลยีดิจิทัล
-------------------------------------------
MOFA วันที่ 29 ธ.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ (Ministry of Foreign Affairs, MOFA) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัด “การสัมมนาว่าด้วยพลังผู้นำของเหล่าเยาวชนในยุคหลังโควิด – 19” โดยได้เชิญทูตเยาวชนจำนวนกว่าร้อยคนที่เคยเข้าร่วม “โครงการแลกเปลี่ยนทูตเยาวชนนานาชาติ” และตัวแทนนักศึกษาชาวต่างชาติในไต้หวัน เข้าร่วมเจรจาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้มีนายเถียนจงกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการ MOFA ทำหน้าที่เป็นประธาน และแขกผู้มีเกียรติที่มาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย Ms. Dilmei Louisa Olkeriil เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐปาเลาประจำไต้หวัน และ Mr. Jarden Kephas เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐนาอูรูประจำไต้หวัน รวมถึงเจ้าหน้าที่การทูตหลายรายที่ประจำการอยู่ในไต้หวัน ทำให้บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก

 

รมช.เถียนฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า แม้ว่าในปี 2020 ทั่วโลกจะประสบกับความท้าทายอย่างไม่สิ้นสุด แต่ไต้หวันกลับสามารถสำแดงความยืดหยุ่นออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสาธารณชนที่พำนักอาศัยอยู่ในไต้หวันได้ร่วมกันสรรค์สร้างความมหัศจรรย์ด้านสาธารณสุขให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก จนได้รับเสียงชื่นชมอย่างแพร่หลายจากประชาคมโลก

 

โดยการสัมมนาครั้งนี้ได้เชิญทูตเยาวชนในสมัยที่ผ่านๆ มา และนักศึกษาต่างชาติจากประเทศพันธมิตรในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกและประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ มาเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน เพื่อร่วมกันหารือบทบาทของเยาวชนที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์โลกหลังยุคโควิด – 19 ใน 3 แง่มุมหลัก ประกอบด้วย ศิลปวัฒนธรรม การแพทย์สาธารณสุข และเทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากนี้ บรรดาแขกผู้เข้าร่วมงานต่างก็ได้กล่าวชื่นชมต่อผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาด “รูปแบบไต้หวัน” (Taiwan Model) และหลักการ “ไต้หวันกำลังช่วย” (Taiwan is helping) ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ได้รับการชื่นชมอย่างแพร่หลายในสังคมโลก

 

หลังเสร็จสิ้นการสัมมนา ก็ได้มีการจัดการแลกเปลี่ยนด้านศิลปวัฒนธรรม โดย Ms. Carren-Tai Waqa บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐนาอูรูและนักศึกษาชาวอินเดียในมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (NTU) ได้ร่วมจัดการแสดงนาฏศิลป์แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ คณะทูตเยาวชนยังได้ร่วมนำเสนอการแสดงสุดพิเศษอันหลากหลาย อาทิ การเต้นแบบสมัยใหม่ การขับร้องเพลงพื้นบ้าน เป็นต้น

 

นับตั้งแต่ปี 2009 ที่มีการจัดตั้ง “โครงการแลกเปลี่ยนทูตเยาวชนนานาชาติ” ตลอด 12 ปีเป็นต้นมา กต.ไต้หวันได้บ่มเพาะเยาวชนมากกว่า 1,700 คนในการทำหน้าที่เป็นทูตเยาวชน โดยในอนาคต กต.ไต้หวันจะมอบโอกาสให้เยาวชนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในภารกิจด้านการทูตและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องมากขึ้นต่อไป