สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ นายหยิวสีคุน ประธานสภานิติบัญญัติ สาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) แบ่งปันประสบการณ์ในการต่อกรกับสถานการณ์โควิด-19 ของไต้หวันให้แก่ประเทศอื่นๆ ได้รับทราบ ในการประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพสมาชิกรัฐสภาเอเชียและแปซิฟิก(Asian - Pacific Parliamentarians’ Union,APPU) ครั้งที่ 50 และคณะมนตรีครั้งที่ 84 ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ
♦ ในอนาคตไต้หวันจะยังคงให้ความช่วยเหลือประชาคมโลกด้วยการส่งมอบทรัพยากรต่างๆ อาทิ หน้ากากอนามัย ยารักษาโรคและเทคโนโลยี ให้แก่นานาชาติอย่างต่อเนื่อง ภายใต้บริบทที่ทรัพยากรเหล่านี้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศแล้ว
♦ ประธานฯ หยิวสีคุน ระบุว่า ทุกประเทศที่ใช้ระบอบเสรีประชาธิปไตยควรสามัคคีกันและสานต่อความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมสันติภาพและความเจริญก้าวหน้าในภูมิภาค
-------------------------------------------
สภานิติบัญญัติ วันที่ 2 ก.พ. 64
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา นายหยิวสีคุน ประธานสภานิติบัญญัติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพสมาชิกรัฐสภาเอเชียและแปซิฟิก(Asian - Pacific Parliamentarians’ Union,APPU) ครั้งที่ 50และคณะมนตรีครั้งที่ 84 ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ ซึ่งเดิมกำหนดจะจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ณ ประเทศญี่ปุ่น แต่เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) ทำให้ต้องเลื่อนเวลาออกไปจนถึงวันนี้ การประชุมครั้งนี้มีคณะผู้แทนสมาชิก 11 ประเทศเข้าร่วมประชุม ในจำนวนนี้นอกจากไต้หวันแล้ว ยังมีหมู่เกาะคุก สาธารณรัฐคิริบาส สาธารณรัฐนาอูรู สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ หมู่เกาะโซโลมอน ไทย และตูวาลูที่มีประธานรัฐสภานำคณะผู้แทนเข้าร่วมการประชุม
ประธานฯหยิวสีคุนได้กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุม โดยนอกจากได้ขอบคุณคณะผู้แทนญี่ปุ่นที่เหน็ดเหนื่อยจากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาใหญ่ APPU ครั้งที่ 50 และคณะมนตรีครั้งที่ 84 ด้วยความจริงใจแล้ว ยังได้แบ่งปันประสบการณ์ในการต่อกรกับสถานการณ์โควิด-19 ของไต้หวันให้แก่ประเทศอื่นๆ ได้รับทราบด้วย พร้อมกันนี้ ประธานฯ หยิวสีคุนยังเน้นย้ำว่า ไต้หวันและประเทศที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ล้วนเป็นประเทศเสรีประชาธิปไตยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและมีอุดมการณ์ที่คล้ายคลึงกัน จึงคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตจะมีการสานต่อความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนในเชิงลึกระหว่างกันต่อไป เพื่อร่วมกันเผชิญกับวิกฤตการณ์ต่างๆ
ประธานฯ หยิวสีคุนกล่าวต่ออีกว่า ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา ไต้หวันต้องเผชิญกับการถูกกดดันที่ไร้เหตุผล และยังถูกกีดกันให้อยู่นอกองค์การอนามัยโลก(WHO) อย่างไรก็ดี ต้องขอขอบคุณมิตรสหายในต่างประเทศจำนวนมาก ที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงและให้การสนับสนุนไต้หวัน ในฐานะผู้แทนไต้หวัน ประธานฯ หยิวสีคุนยังได้กล่าวขอบคุณทุกประเทศที่เข้าร่วมการประชุม ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันได้มีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ ในอนาคตไต้หวันจะยังคงให้ความช่วยเหลือประชาคมโลกด้วยการส่งมอบทรัพยากรต่างๆ อาทิ หน้ากากอนามัย ยารักษาโรคและเทคโนโลยี ให้แก่นานาชาติอย่างต่อเนื่อง ภายใต้บริบทที่ทรัพยากรเหล่านี้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบในฐานะสมาชิกของประชาคมโลก
ประธานฯ หยิวสีคุน ระบุว่า ทุกประเทศที่ใช้ระบอบเสรีประชาธิปไตยควรสามัคคีกันและสานต่อความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมสันติภาพและความเจริญก้าวหน้าในภูมิภาค ในอนาคตไต้หวันยังจะพยายามเสริมสร้างความร่วมมือกับนานาชาติในเชิงลึกต่อไป
