สำนักข่าว CNA วันที่ 3 มี.ค. 64
 
หลังจากที่จีนห้ามนำเข้าสับปะรดจากไต้หวัน ทำให้เกิดกระแสแห่ซื้อสับปะรดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไต้หวัน เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา นายเฉินจี๋จ้ง ประธานคณะกรรมการการเกษตร (COA) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เปิดเผยว่า จากสถิติล่าสุดชี้ว่า จะมีการส่งออกสับปะรดจำนวน 5,000 ตันไปยังญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
 
โดยเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา นายเฉินจี๋จ้งได้รับเชิญไปร่วมงานสัมมนาเกี่ยวกับสับปะรด ที่เขตหนานซีของนครไถหนาน พร้อมทั้งไปเยี่ยมชมตลาดและศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งในระหว่างให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน นายเฉินฯ ได้กล่าวขอบคุณทั่วโลกและผู้ประกอบการในประเทศ ผู้บริโภค รวมถึงเทศบาลท้องถิ่น ที่ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
 
นายเฉินจี๋จ้งยังกล่าวว่า นับจนถึงคืนวันที่ 2 มีนาคม ได้มีการสั่งซื้อสับปะรดไปแล้วมากกว่า 41,000 ตัน จากต่างประเทศและผู้ประกอบการในประเทศ รวมถึงนำไปแปรรูป ซึ่งเป็นตัวเลขที่เท่ากับปริมาณที่ส่งออกไปจำหน่ายที่จีนเมื่อปีที่แล้ว จนทำให้สามารถรักษาเสถียรภาพของราคาสับปะรด ไม่ให้มีความผันผวนมากนัก
 
โดยนายเฉินฯ เห็นว่า ในปัจจุบัน ตลาดส่งออกหลักของสับปะรดไต้หวันคือญี่ปุ่น พร้อมประกาศข่าวดีว่า กำลังจะมีการส่งออกสับปะรดจำนวน 5,000 ตันไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา แสดงให้เห็นว่า หากสินค้าไต้หวันสามารถจำหน่ายไปยังตลาดอื่นที่ไม่ใช่ตลาดจีน ก็จะเป็นการกระจายความเสี่ยงไม่ให้พึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป
 
นายเฉินฯ ยังกล่าวด้วยว่า ผู้ผลิตอาหารแปรรูปของไต้หวัน ก็เตรียมนำสับปะรดไปแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม พายสับปะรด และสับปะรดแห้ง เพื่อจำหน่ายให้ประชาชน และแม้แต่เหล่านักธุรกิจไต้หวันในต่างประเทศ รวมถึงชาวจีนโพ้นทะเล ต่างก็สั่งซื้อกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังผ่านการแปรรูปแล้ว สับปะรดไต้หวันก็จะสามารถจำหน่ายไปยังทั่วโลก นี่ก็คือรูปแบบของการเป็นทีมชาติ พร้อมหวังว่า ผลไม้อื่นๆ ของไต้หวันจะได้รับความสนับสนุนในแบบเดียวกันนี้เช่นกัน