ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 14 มี.ค. 64
 
เมื่อเช้าวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแห่งสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน)ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิด “การประชุมเชิงวิชาการด้านการแพทย์แผนจีนครั้งที่ 31 และงานฉลองเทศกาลแพทย์แผนจีนครั้งที่ 91” โดยชี้ว่า การที่ “ชิงก้วนหมายเลข 1”  ยาสมุนไพรจีนที่คิดค้นโดยวงการแพทย์แผนจีนของไต้หวัน ได้รับความนิยมในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้ทั่วโลกมองเห็นไต้หวัน พร้อมหวังว่า จะสามารถพัฒนาไปสู่การสร้างความร่วมมือระหว่างแพทย์แผนจีนและตะวันตกในการรักษาในทางคลินิก เพื่อประโยชน์สุขของผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น    
 
ประธานาธิบดีกล่าวขณะปราศรัยว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา วงการแพทย์แผนจีนก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการพัฒนารูปแบบการรักษาพยาบาลที่เป็นความร่วมมือระหว่างแพทย์จีนและตะวันตก จนได้รับความสนใจจากทั้งในและต่างประเทศ เช่น สถาบันวิจัยสมุนไพรจีนของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ ได้ร่วมกับวงการแพทย์แผนปัจจุบันพัฒนายาสมุนไพร “ไต้หวันชิงกวั้นหมายเลข 1” ขึ้น และหลังจากที่มอบลิขสิทธิ์ให้โรงงานทำการผลิตออกมาแล้ว ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้ทั่วโลกต่างก็มองเห็นไต้หวัน
 
ประธานาธิบดีเห็นว่า ผลสัมฤทธิ์อย่างโดดเด่นนี้ ถือเป็นความสำเร็จของงานวิจัยที่ได้มาจากความพยายามเป็นเวลานานหลายปีของวงการแพทย์แผนจีน ในขณะเดียวกัน ด้วยความช่วยเหลือจากสมาคมแพทย์แผนจีน ทำให้ระบบการรักษาพยาบาลที่ดำเนินการควบคู่กันไปทั้งการแพทย์แผนจีนและแผนปัจจุบันของไต้หวัน ก็ค่อยๆ ถูกพัฒนาให้มีความสุกงอมมากขึ้น
 
สำหรับการพัฒนาด้านสมุนไพร ประธานาธิบดีชี้ว่า ขณะนี้ กฎหมายการพัฒนาด้านสมุนไพรจีน ได้เริ่มบังคับใช้แล้ว โดยสภาบริหาร ได้อนุมัติแผน 5 ปีของ “โครงการพัฒนาการแพทย์แผนจีนสู่ความเป็นเลิศ” ซึ่งจะต้องทำการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการฝึกอบรมแพทย์แผนจีน และความเพิ่มแม่นยำในการวินิจฉัยทางการแพทย์
 
ทั้งนี้ ประธานาธิบดียังชี้ว่า ในด้านการกำกับดูแลสมุนไพรจีน จะรวมถึงการตรวจสอบสมุนไพรจีนที่พรมแดน มาตรฐานการตรวจสอบ คุณภาพในการผลิต และการแก้ไขปรับปรุงตำรับยาจีนในไต้หวัน เป็นต้น ซึ่งเราจะพยายามอย่างเต็มที่ในการเชื่อมโยงเข้ากับมาตรฐานในระดับนานาชาติ หากมองจากความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไต้หวันแล้วจะพบว่า การพัฒนาและผลิตสมุนไพรจีน การควบคุมดูแลการให้บริการทางการแพทย์แผนจีน รวมถึงการถ่ายทอดประสบการณ์ในการบูรณาการการแพทย์แผนจีนและตะวันตก ต่างก็มีศักยภาพในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของตลาดในกลุ่มประเทศตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่