ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 17 มี.ค.64
เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลการบริหารทรัพย์สินประจำปี 2021 (2021 Wealth Management Award) โดยได้เน้นย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) คือแนวโน้มในอนาคตของโลก และในช่วงระหว่างที่มีการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรม ซึ่งได้มีการนำเอาการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์มาเป็นเงื่อนไขสำคัญ หากภาคธุรกิจหรือการลงทุนของไต้หวันต้องการดำเนินรอยตาม จำเป็นอย่างมากที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือจากภาคการเงิน โดยสามารถอาศัยการบริหารจัดการของสถาบันทางการเงินในการระดมทุนจากภาคประชาชน มาใช้ในการสนับสนุนไต้หวันให้ก้าวไปในทิศทางดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการสร้างประโยชน์ให้เกิดแก่ทั้งสองฝ่าย
เมื่อกล่าวถึงแนวโน้มในอนาคตของโลก รองประธานาธิบดีได้หยิบยกเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ขึ้นมากล่าวถึงเป็นพิเศษ โดยระบุว่า Apple ได้ประกาศต่อสาธารณชนแล้วว่าจะบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2030 ในขณะที่กลุ่มธุรกิจระดับนานาชาติอื่นๆ อาทิ Microsoft และ Google ก็ได้ประกาศแนวทางการปฏิบัติในลักษณะคล้ายคลึงกัน ในช่วงระหว่างที่มีการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรม ซึ่งได้มีการนำเอาการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์มาเป็นเงื่อนไขสำคัญ หากไต้หวันไม่เดินไปในทิศทางเดียวกันนี้ ในอนาคตจะต้องเกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี การที่ภาคธุรกิจหรือการลงทุนของไต้หวันจะดำเนินรอยตาม โดยปราศจากความช่วยเหลือจากภาคการเงิน ก็จะไม่สามารถดำเนินการได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในปัจจุบัน ญี่ปุ่น เกาหลี สหภาพยุโรปและจีน ต่างประกาศว่า จะมุ่งมั่นบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในขณะที่สหรัฐอเมริกาก็ประกาศว่า จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) ภายในปี 2050
รองประธานาธิบดีแสดงความเห็นว่า หากไต้หวันอาศัยการบริหารจัดการของสถาบันทางการเงินในการระดมทุนจากภาคประชาชน มาใช้ในการให้ความสนับสนุนไต้หวันให้ก้าวไปในทิศทางดังกล่าว ก็จะเป็นการสร้างประโยชน์ให้เกิดแก่ทั้งสองฝ่าย และ “นี่คือความสำคัญของการบริหารการเงิน”
รองประธานาธิบดีเปิดเผยว่า ในอนาคตคณะกรรมการกำกับดูแลสถาบันทางการเงินจะร่วมมือกับผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องและจะทยอยเปิดเสรีในด้านต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีพื้นที่และมีอิสระในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งร่วมแรงร่วมใจและทุ่มเทความพยายาม เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันในระดับนานาชาติให้แก่อุตสาหกรรมการเงินไต้หวันร่วมกัน
