ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 24 มี.ค. 64
เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางไปร่วมพิธีเปิด “การประชุมสามัญประจำปี สมาคมนักธุรกิจไต้หวันทั่วโลก ครั้งที่ 27 สมัยที่ 2” โดยได้แสดงความชื่นชมต่อการอุทิศตนของเหล่านักธุรกิจไต้หวันในต่างประเทศ ที่ช่วยกระตุ้นการพัฒนาของเศรษฐกิจไต้หวัน พร้อมเชิญชวนให้นักธุรกิจไต้หวันเหล่านี้ ร่วมมือกับรัฐบาลในการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หวาดหวั่นในยุคหลังโควิด เพื่อนำพาไต้หวันไปสู่อนาคตอันรุ่งโรจน์
โดยรองประธานาธิบดีได้กล่าวระหว่างปราศรัยว่า ในเดือนกันยายนของปีที่แล้ว ตนได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีปิดการประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 26 ของสมาคมนักธุรกิจไต้หวันทั่วโลก ซึ่งในตอนนั้น ได้อวยพรให้สมาคมนักธุรกิจไต้หวันภายใต้การนำของนายกสมาคมคนใหม่ คือ นายเหลียงฮุยเถิง มีความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สมาคมนักธุรกิจไต้หวันก็มีผลการดำเนินงานที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยไม่เพียงแต่จะช่วยให้ไต้หวันสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น หากแต่ยังเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่คอยเป็นปากเสียงให้กับไต้หวันในเวทีโลก รวมทั้งยังได้ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ด้วย
รองประธานาธิบดียังชี้ว่า ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สมาคมนักธุรกิจไต้หวันและเหล่านักธุรกิจไต้หวันในประเทศต่างๆ ได้ร่วมกันบริจาคอุปกรณ์และเครื่องมือในการป้องกันโรคเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน จนทำให้ได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วโลก และในเดือนมีนาคมของปีนี้ ซึ่งจีนได้ห้ามการนำเข้าสับปะรดไต้หวัน นายกฯ เหลียงก็ได้ทำตัวเป็นแบบอย่างด้วยการสั่งซื้อสับปะรดจำนวนมาก จนทำให้เหล่านักธุรกิจไต้หวันในประเทศต่างๆ แสดงความสนับสนุนออกมาอย่างพร้อมเพรียง ทำให้จนถึงวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา มีคำสั่งซื้อสับปะรดเข้ามามากถึง 560 ตันแล้ว
รองประธานาธิบดีกล่าวว่า หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนถึงขณะนี้ ทั่วโลกต่างก็แสดงความชื่นชมที่ไต้หวันประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการรับมือกับการแพร่ระบาด และในขณะนี้ในไต้หวันก็เริ่มทำการฉีดวัคซีนในประเทศแล้ว โดยรัฐบาลใช้กลยุทธ์ในการจัดซื้อจากต่างประเทศและพัฒนาจากในประเทศควบคู่กันไป ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น “เราใช้วัคซีนมารับประกันสุขภาพของประชาชน เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ ในอนาคต”
สำหรับในด้านเศรษฐกิจของประเทศนั้น รองประธานาธิบดีชี้ว่า ด้วยความร่วมมือและความพยายามอย่างเต็มที่จากทุกฝ่าย ทำให้ในปีที่ผ่านมา ไต้หวันมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 3.11 และคาดว่าในปีนี้ อัตราการขยายตัวจะสูงถึงร้อยละ 4.64 โดยในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดครั้งนี้ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวัน โดยการนำของบริษัท TSMC ได้แสดงให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงความสำคัญของพวกเรา ที่มีต่อประชาคมโลกด้วย
