กระทรวงการต่างประเทศ  วันที่ 27 มี.ค.64
 
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2564 ตามเวลามาตรฐานเขตตะวันออก สำนักงานภูมิภาคประจำแอฟริกาขององค์การอนามัยโลก (AFRO) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (African Union-Africa CDC) องค์การอนามัยโลกแอฟริกาตะวันตก รัฐบาลประเทศคองโก กินี และสหรัฐอเมริกา ร่วมกันจัดการประชุมนานาชาติระดับสูงว่าด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับแอฟริกา ในการป้องกันและรับมือกับการระบาดของโรคอีโบลา โดยมีนานาประเทศเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้จำนวนมาก อาทิ กลุ่มประเทศในแอฟริกาที่ได้รับผลกระทบจากโรคอีโบลา สหภาพยุโรปและประเทศสมาชิก ตลอดจนไต้หวันซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน การประชุมดังกล่าวได้รับเกียรติจากนายแอนโทนี บลินเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา และ นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เป็นประธานในพิธีเปิด สำหรับไต้หวันมี นส.เซียวเหม่ยฉิน ผู้แทนไต้หวันประจำสหรัฐอเมริกา และนายโจวจื้อห้าว อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ ได้รับเชิญและเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
 
ในระหว่างการกล่าวปาฐกถา ผู้แทนเซียวฯ ระบุว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลกระทบต่อทั่วโลกอย่างรุนแรง เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเกิดโรคต่างๆ ไม่มีขอบเขตและไร้พรมแดน ประชาคมโลกจึงควรที่จะหันมาจับมือและร่วมมือกัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าทุกๆ ประเทศและพลเมืองทุกๆ คนจะได้รับการดูแลรักษาพยาบาลที่ดีและมีความปลอดภัยในสุขภาพ ไต้หวันมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาและนานาชาติ ในการจัดการกับภัยคุกคามที่มาจากโรคอีโบลา ที่ผ่านมาไต้หวันได้บริจาคชุดป้องกันเชื้อโรคส่วนบุคคลและบริจาคเงินสนับสนุน และในครั้งนี้รัฐบาลไต้หวันมีความประสงค์ที่จะบริจาคเพิ่มอีกเป็นจำนวนเงิน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้การช่วยเหลือในการจัดการกับสถานการณ์การระบาดของโรคอีโบลา ไต้หวันมีความยินดีที่จะร่วมมือกับมิตรประเทศในแอฟริกา สหรัฐอเมริกา ตลอดจนประเทศต่างๆ ที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อส่งเสริมและอุทิศให้กับการทำงานด้านระบบสาธารณสุขของนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหนหรือเวลาใด ไต้หวันพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือตลอดไป   
 
ไต้หวันได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมการประชุมนานาชาติระดับสูงจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตั้งแต่ในช่วงต้นที่รัฐบาล ปธน.ไบเดนขึ้นรับตำแหน่ง แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวันและสหรัฐอเมริกา ไต้หวันพร้อมและยึดมั่นที่จะส่งเสริมให้มีการเข้าร่วมในองค์การอนามัยโลกหรือระบบสาธารณสุขทั่วโลก โดยใช้ความเป็นมืออาชีพ การนำไปปฏิบัติได้จริง และการอุทิศตน เพื่อผลักดันให้ความร่วมมือในการป้องกันการแพร่ระบาดระหว่างประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น