ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
มูลค่าผลผลิตอุตสาหกรรมจอแสดงผลของไต้หวันในปี 2563 กลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังหดตัวต่อเนื่องกว่า 2 ปี
2021-04-07
New Southbound Policy。ปี 2563 สิ้นสุดการหดตัวลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปีของมูลค่าผลผลิตอุตสาหกรรมจอแสดงผลของไต้หวัน (ภาพจาก กระทรวงเศรษฐการ)
ปี 2563 สิ้นสุดการหดตัวลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปีของมูลค่าผลผลิตอุตสาหกรรมจอแสดงผลของไต้หวัน (ภาพจาก กระทรวงเศรษฐการ)

กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 6 เม.ย.64

1.    ในช่วงระหว่างปี  2553-2557 อุตสาหกรรมจอแสดงผล LCD และชิ้นส่วนประกอบ (ใช้ชื่อย่อว่า อุตสาหกรรมจอแสดงผล) ของไต้หวัน มีมูลค่าผลผลิตเฉลี่ยมากกว่า 1.1 ล้านล้านเหรียญไต้หวันต่อปี แต่หลังจากการผงาดขึ้นของห่วงโซ่อุปทานสีแดงของจีน (China's Red Supply Chain) ที่มีการผลิตจอแสดงผลออกสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ปริมาณอุปทานมากกว่าอุปสงค์  และกระทบต่อมูลค่าผลผลิตจอแสดงผลของไต้หวันลดลงอย่างฮวบฮาบในปี  2561 และ 2562 

2.    ปี 2563 สิ้นสุดการหดตัวลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปีของมูลค่าผลผลิตอุตสาหกรรมจอแสดงผลของไต้หวัน:ปี 2563 ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มูลค่าผลผลิตของอุตสาหกรรมจอแสดงผลในช่วงครึ่งปีแรก ยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง มีเพียงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจากที่บ้าน ( Work from Home) และการศึกษาทางไกล ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก  ส่งผลให้การผลิตจอแสดงผลด้วยเทคโนโลยีด้าน IT เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับอานิสงส์ของรูปแบบเศรษฐกิจ Stay-at-Home Economy  ได้ส่งผลให้มูลค่าผลผลิตจอแสดงผลในช่วงครึ่งปีหลัง ขยายตัวขึ้นร้อยละ11.2  โดยเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน สำหรับมูลค่าผลผลิตอุตสาหกรรมจอแสดงผลของไต้หวันตลอดปี 2563 มีการเติบโตขึ้นร้อยละ 0.3 นับว่าเป็นการสิ้นสุดการหดตัวลงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี

3.    การเติบโตของจอแสดงผลขนาดใหญ่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมจอแสดงผลของไต้หวันฟื้นตัว :ช่วงครึ่งหลังของปี 2563 มูลค่าผลผลิตจอแสดงผลขนาดใหญ่ (10 นิ้วขึ้นไป) พลิกกลับมาเติบโตขึ้นร้อยละ 25.5 ส่งผลให้มูลค่าผลผลิตตลอดปี 2563 อยู่ที่ 424,200 ล้านเหรียญไต้หวัน หรือเติบโตขึ้นร้อยละ 4.6 ต่อปี  นับเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมจอแสดงผลของไต้หวันเติบโตขึ้น

4.    การส่งออกจอแสดงผลของไต้หวันขยายตัวขึ้น เป็นการแสดงผลงานที่ยอดเยี่ยมกว่าจีน เกาหลีใต้และญี่ปุ่น:ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การส่งออกจอแสดงผล LCD ของจีนมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ในขณะที่ผู้ประกอบการไต้หวันบางส่วนขยายกำลังการผลิตไปสู่สินค้าระดับสูง ประกอบกับเกาหลีใต้ทยอยปิดโรงงานผลิตจอแสดงผล LCD อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปี 2563 ไต้หวันขยับขึ้นสู่อันดับ  2 โดยเบียดเกาหลีใต้ให้ตกลงไปอยู่ในอันดับ 3  นอกจากนี้ในปี 2563 การส่งออกจอแสดงผล LCD ของไต้หวันได้ขยายตัวขึ้นในอัตราร้อยละ 5.3 ต่อปี ซึ่งเป็นการแสดงผลงานที่ยอดเยี่ยมกว่าประเทศคู่แข่งรายสำคัญ และเป็นประเทศเดียวที่การส่งออกมีการขยายตัวขึ้น ในขณะที่การส่งออกจอแสดงผลของจีนหดตัวลงร้อยละ 4.7 ต่อปี เกาหลีใต้หดตัวลงร้อยละ 5.6 และญี่ปุ่นหดตัวลงร้อยละ 6.2