สำนักข่าว CNA วันที่ 22 เม.ย. 64
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (Standard & Poor's, S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก แถลงว่า ผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันประสบความสำเร็จเยี่ยมยอด ส่งผลให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพ S&P จึงได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของไต้หวันจากเดิม AA- มาเป็น AA พร้อมยืนยันว่า ความน่าเชื่อถือของไต้หวันในระยะสั้นอยู่ระดับ A-1+ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผลการจัดอันดับของไต้หวันเป็นไปในทิศทางเชิงบวก
โดยอันดับความน่าเชื่อถือของไต้หวัน มีการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ปี 2002 โดยในครั้งนั้น ได้ถูกปรับลดระดับจาก AA เป็น AA- ในครั้งนี้ไต้หวันสามารถกลับขึ้นสู่ระดับ AA ได้อีกครั้งหลังจากที่หลุดจากระดับนี้ไปนานกว่า 18 ปี
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา S&P ได้ประกาศรายงานการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของไต้หวัน โดยได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของไต้หวันจาก AA- มาเป็น AA สะท้อนให้เห็นว่า แนวโน้มการพัฒนาทางเศรษฐกิจของไต้หวันขยายตัวได้ดีกว่าประเทศอื่น ทั้งยังมีส่วนช่วยให้ไต้หวันรักษาต้นทุนจากหนี้สินในระดับต่ำไว้ได้อีกด้วย
S&P แถลงว่า แม้ว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ยังคงลุกลามไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากไต้หวันมีมาตรการรับมือกับโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับรายได้สุทธิจากต่างประเทศที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และธุรกิจเอกชนที่เปี่ยมด้วยศักยภาพทางการแข่งขัน ซึ่งต่างมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไต้หวันในปี 2020 ให้เติบโตขึ้น
S&P วิเคราะห์ว่า มาตรการรับมือกับโรคระบาดของไต้หวันถือเป็นหนึ่งในต้นแบบที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยรัฐบาลไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดแต่อย่างใด และเนื่องจากอุตสาหกรรมส่งออกทั่วโลกได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบการทำงานระยะไกล จึงส่งผลให้เกิดอุปสงค์ด้านสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ไต้หวันได้รับผลประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้น อันเป็นการส่งผลให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวที่เด่นชัดกว่าก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19
อย่างไรก็ตาม S&P ระบุว่า ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบยังคงเผชิญกับความตึงเครียด แม้ว่า S&P จะตั้งสมมติฐานที่เกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไปของไต้หวันว่า สองฝั่งช่องแคบยังจำเป็นต้องคงสถานภาพในปัจจุบันเอาไว้ดังเดิม เนื่องจากความเชื่อมโยงทางการค้าและเศรษฐกิจที่มีการไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิด แต่สถานการณ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้น อาจส่งผลให้เศรษฐกิจและสถานะทางการเงินของไต้หวัน มีความเสี่ยงสูงที่จะทรุดตัวลงอย่างกระทันหันในภายภาคหน้า
S&P ชี้ว่า แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่เป็นไปในทิศทางเชิงบวก สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์จากต่างประเทศที่นับวันยิ่งเพิ่มสูงขึ้น อันเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจของไต้หวันขยายตัวต่อไปอย่างต่อเนื่อง