สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง วันที่ 7 พ.ค. 64
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กระทรวงมหาดไทย สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ประสานความร่วมมือกับศูนย์บ่มเพาะบุคลากรใน 7 สถาบันอุดมศึกษา ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยจิ้งอี๋ (Providence University, PU) จัดหลักสูตรฝึกอบรมในระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายน 2021 รวม 8 รอบ ซึ่งจะเปิดรับสมัครผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่สองเข้ารับการฝึกอบรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์วิทยากรที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม นายเฉินจงเยี่ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องจะประกาศผ่านทางเว็บไซต์ ภายในกลางเดือนพฤษภาคมนี้
รมช.เฉินฯ กล่าวว่า ในปัจจุบัน ไต้หวันมีผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่สองพำนักอยู่เป็นจำนวนนับล้านคน “โครงการบ่มเพาะบุคลากรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม” ซี่งจัดโดย สตม.ในครั้งนี้ คาดหวังที่จะให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่สองประยุกต์ใช้ข้อได้เปรียบของตนเอง เข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะ ตลอดจนเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมที่หลากหลาย
สตม. แถลงว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ทางหน่วยงานได้ประสานความร่วมมือในการดำเนินการจัดโครงการฝึกอบรมกับศูนย์บ่มเพาะบุคลากรใน 7 สถาบันอุดมศึกษา ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยจิ้งอี๋ (Providence University, PU) มหาวิทยาลัยจงหยวน (Chung Yuan Christian University, CYCU) และมหาวิทยาลัยอี๋หลาน (National Ilan University, NIU) โดยจะทำการจัดหลักสูตรฝึกอบรมขั้นพื้นฐานและหลักสูตรขั้นสูงในระหว่างเดือนมิถุนายน - กันยายนปีนี้ รวม 8 รอบ ซึ่งจะเปิดรับสมัครผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่สอง เข้าฝึกอบรมเป็นระยะเวลารวม 28 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งแต่ละรอบจะเปิดรับสมัครผู้เรียนเพียง 40 คน และจะมีการจัดการทดสอบหลังเสร็จสิ้นการฝึกอบรม โดยผู้เรียนที่ผ่านการทดสอบ จะได้รับใบประกาศนียบัตรสำเร็จหลักสูตร พร้อมทั้งได้รับโอกาสในการเข้าเป็นส่วนหนึ่งในคลังบุคลากรที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการได้รับโอกาสการว่าจ้างจากแวดวงธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อไป
สตม.ชี้ว่า หลักสูตรฝึกอบรมขั้นพื้นฐาน เปิดรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่สอง ที่มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ขึ้นไป ส่วนหลักสูตรขั้นสูงต้องเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจากหลักสูตรขั้นพื้นฐาน หรือเคยผ่านการฝึกอบรมทักษะการเป็นล่ามแปลภาษาจากหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชนมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย รวมถึงผู้ที่เคยผ่านการฝึกอบรมการเป็นผู้ช่วยด้านการสอนภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ จึงจะสามารถลงทะเบียนเข้าเรียนในหลักสูตรขั้นสูงได้
หากมีข้อสงสัย สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ข้อมูลด้านการส่งเสริมและพัฒนากลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ (https://ifi.immigration.gov.tw)
