ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 6 มิ.ย. 64
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนวุฒิสภาแห่งสหรัฐอเมริกา พ้รอมกล่าวขอบคุณคณะตัวแทนฯ ที่ได้เดินทางมาเยือนไต้หวันเป็นการเฉพาะ ต่อเนื่องจากการเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ โดยคณะตัวแทนฯ ได้ส่งผ่านข้อความว่าด้วยการให้การสนับสนุนไต้หวันแบบไม่แบ่งแยกฝักฝ่ายของสหรัฐฯ ซึ่งปธน.ไช่ฯ ระบุว่า การที่ไต้หวันได้รับความสนับสนุนจากทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่นอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ไต้หวันมีโอกาสได้รับวัคซีนในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น และได้รับอย่างทันท่วงที นับเป็นความช่วยเหลือครั้งใหญ่จากมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อันแนบแน่น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการร่วมสกัดกั้นโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ จะมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อร่วมสร้างคุณประโยชน์ที่มากขึ้นให้กับประชาคมโลกในยุคหลังโควิด – 19 ต่อไป
ในสุนทรพจน์ของปธน.ไช่ฯ เริ่มต้นด้วยการกล่าวต้อนรับ Ms. Tammy Duckworth , Mr. Dan Sullivan และ Mr. Chris Coons 3 สมาชิกวุฒิสภาที่ได้เดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ โดยทั้ง 3 ท่านนี้ถือเป็นมิตรสหายที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไต้หวันมาเป็นเวลายาวนาน
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า Ms. Duckworth ได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในรัฐสภาสหรัฐฯ มาเป็นเวลานาน โดยก่อนหน้าปธน.ไช่ฯ จะขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เคยเข้าร่วมพบปะหารือกับ Mr. Sullivan ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี และในระหว่างช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Mr. Sullivan ได้เดินทางมาเยือนไต้หวันแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่เดินทางมาเยือน ก็มักจะให้คำแนะนำที่จริงใจและเป็นรูปธรรมให้แก่ไต้หวันอย่างเต็มที่
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า ในปี 2019 ที่ Mr. Coons เดินทางมาเยือนไต้หวันเป็นครั้งแรก ประจวบกับเป็นวาระครบรอบ 40 ปีแห่งการบัญญัติ “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” ซี่งในครั้งนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ระหว่างกัน
ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า หลายปีมานี้ ไต้หวันและสหรัฐฯ ต่างยึดมั่นในหลักการ“ความสัมพันธ์แบบมิตรแท้ และพัฒนาการที่เป็นรูปธรรม” โดยสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 3 คนนี้ต่างมีบทบาทที่สำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในเชิงลึกด้วย
ปธน.ไช่ฯ ยังแถลงว่า ในช่วงที่ผ่านมา ไต้หวันได้รับความสนับสนุนจากทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่นอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ไต้หวันมีโอกาสได้รับวัคซีนในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น และได้รับอย่างทันท่วงที นับเป็นความช่วยเหลือครั้งใหญ่จากมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อันแนบแน่น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการร่วมสกัดกั้นโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ
พวกเราชาวไต้หวันขอขอบคุณรัฐบาลโจ ไบเดน ที่ยื่นมือให้ความช่วยเหลือ โดยได้กำหนดให้ไต้หวันอยู่ในรายชื่อประเทศที่รัฐบาลสหรัฐฯ มีความประสงค์จะส่งมอบวัคซีนให้เป็นอันดับต้นๆ พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้ขอบคุณ 3 สมาชิกวุฒิสภาที่ร่วมให้การสนับสนุนและประสานงานระหว่าง 2 ประเทศอย่างเต็มที่
ปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ไต้หวันจะสามารถเอาชนะความท้าทายที่กำลังเผชิญอยู่ตรงหน้า ผ่านการประสานความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่นานาประเทศในการร่วมสกัดกั้นโรคระบาด เพื่อกลับไปเดินอยู่บนหนทางแห่งการฟื้นฟู แม้ว่าจะอยู่ในช่วงวิกฤตอันเกิดจากสถานการณ์โควิด – 19 แต่ไต้หวัน - สหรัฐฯ ก็ยังคงเสริมสร้างกลไกความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างกัน อาทิ เศรษฐกิจและการค้า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี 5G และความปลอดภัยของระบบโทรคมนาคม อีกทั้งยังร่วมปกป้องเสรีภาพ การเปิดกว้าง สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ให้คงอยู่สืบต่อไปอีกด้วย
ปธน.ไช่ฯ คาดหวังว่าในอนาคต ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ จะมีความแน่นแฟ้นในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อร่วมสร้างคุณประโยชน์ที่มากขึ้นให้กับประชาคมโลกในยุคหลังโควิด – 19 ต่อไป