ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 7 มิ.ย. 64
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 7 มิ.ย. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในประเด็นว่าด้วยภารกิจการป้องกันโรคระบาด ณ ทำเนียบประธานาธิบดี โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า เทศกาลไหว้บ๊ะจ่างใกล้เวียนมาถึง หากในระหว่างช่วงเทศกาล ประชาชนต่างเดินทางหรือเคลื่อนย้ายข้ามเขตพื้นที่ อาจส่งผลให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อถิ่นกำเนิดและครอบครัว ที่อาจได้รับความเสี่ยง ด้วยเหตุนี้ ปธน.ไช่ฯ จึงวอนให้ประชาชน “หยุดอยู่กับที่ อย่าเคลื่อนย้าย” เชื่อว่าไต้หวันจะสามารถก้าวผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน
สุนทรพจน์ของปธน.ไช่ฯ มีสาระสำคัญดังนี้
ในวันที่ 7 มิ.ย. สภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ประกาศขยายเวลามาตรการป้องกันโรคระบาด ระดับ 3 ออกไปจนถึงวันที่ 28 มิ.ย. นอกจากนี้ กำหนดการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของนักเรียนระดับชั้นมัธยมปลาย ก็ต้องเลื่อนออกไปจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม ในระยะนี้ เพื่อลดการชุมนุมกันของผู้คน ทางรัฐบาลได้ใช้มาตรการควบคุมจำนวนคนที่เข้า – ออกตลาดสดเพื่อมาซื้อวัตถุดิบในการทำอาหาร การควบคุมจำนวนคนเข้า - ออกอย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรคระบาดภายในพื้นที่ส่วนรวมได้ โดยปธน.ไช่ฯ ขอให้ผู้ว่าการเมืองต่างๆทุกแห่ง ให้ความร่วมมือกับนโยบายของส่วนกลาง มุ่งมั่นร่วมสกัดกั้นโรคระบาดไปพร้อมกัน
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า แม้ว่าเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างจะเป็นวันที่ครอบครัวต้องกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แต่เนื่องจากในปีนี้มีสถานการณ์โควิด – 19 เป็นอุปสรรค ปธน.ไช่ฯ จึงวอนขอให้ประชาชนตระหนักว่า หากรักบ้านเกิดก็ควรพำนักอยู่กับที่ รักครอบครัวก็ไม่ควรเดินทางออกไปไหน
หลายวันมานี้ เชื่อว่าประชาชนคงทราบข่าวดีแล้วว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ต่างทยอยบริจาควัคซีนให้ไต้หวัน โดยญี่ปุ่นได้บริจาควัคซีนแอสตราเซเนกา (AZ) จำนวน 1.24 ล้านโดสให้ไต้หวัน ซึ่งหลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว ก็จะสามารถนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคลากรที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แนวหน้าและกลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ได้ ส่วนวัคซีนจำนวน 7.5 แสนโดสที่สหรัฐฯ บริจาคให้ไต้หวัน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานด้านการขนส่ง เชื่อว่าจะส่งมาถึงไต้หวันผ่านการขนส่งทางอากาศในเร็ววันนี้
ปธน.ไช่ฯ ขอบคุณมิตรสหายทั้งในและต่างประเทศที่มีส่วนร่วมในการประสานงานในครั้งนี้ พร้อมให้คำมั่นว่า รัฐบาลไต้หวันจะพยายามอย่างสุดความสามารถ ในการจัดสรรวัคซีนให้เพียงพอต่อความต้องการของภาคสังคมอย่างมีเสถียรภาพ
ในส่วนของการวางแนวทางการเข้ารับวัคซีน รวมถึงการกำหนดกลุ่มเป้าหมายลำดับก่อน – หลัง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการร่างแผนการโดยศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (CECC) ไต้หวัน และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ซึ่งจะทำการประกาศในภายหลังต่อไป
ท้ายนี้ ปธน.ไช่ฯ ขอขอบคุณประชาชนทุกคนอีกครั้งที่ให้ความร่วมมือ พร้อมให้กำลังใจว่า ความลำบากต่างๆ ที่เกิดจากสถานการณ์โควิด – 19 ในครั้งนี้ ขอให้สาธารณชนร่วมอดทนก้าวผ่านไปพร้อมกัน