กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 9 มิ.ย. 64
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามเวลาในไต้หวัน คณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (International Paralympic Committee, IPC) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ไต้หวันจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาใหญ่คณะกรรรมการพาราลิมปิกสากล ครั้งที่ 20 ประจำปี 2021 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 12 ธ.ค. 2021 ณ ศูนย์แสดงสินค้าหนานกั่งในกรุงไทเป ถือเป็นครั้งแรกที่ไต้หวันสามารถได้สิทธิในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่ของ IPC ด้วย
การประชุมสมัชชาใหญ่คณะกรรรมการพาราลิมปิกสากล เป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดของ IPC ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปี โดยในเดือนต.ค. ปี 2019 ได้ทำการจัดขึ้นในเมืองบอนน์ ประเทศเยอรมนี โดยการประชุมสมัชชาในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะมีการเลือกประธาน รองประธาน และคณะกรรมการบริหาร IPC ชุดใหม่ รวมถึงการลงมติผ่านร่างแก้ไขกฎบัตรฉบับใหม่ เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งกรุงไทเป (Chinese Taipei Paralympic Committee: CTPC) ได้รับจดหมายที่ไถ่ถามความสมัครใจในการขอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปีนี้ ซึ่ง CTPC ได้หารือกับทบวงกีฬาไต้หวันถึงความเป็นไปได้ในการยื่นสมัคร ก่อนจะได้รับความเห็นชอบ ทำให้ CTPC ตัดสินใจยื่นสมัครโดยทันที
ในระหว่างการยื่นสมัคร ทบวงกีฬาได้ให้ความช่วยเหลือแก่ CTPC ทั้งในด้านงบประมาณและการดำเนินการ พร้อมทั้งรวบรวมหน่วยงานข้ามกระทรวงและกรุงไทเปมาร่วมให้การสนับสนุน โดยขณะนี้ IPC และ CTPC ได้เสร็จสิ้นการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกันแล้ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะทำการลงนามในหนังสือสัญญาอย่างเป็นทางการเป็นลำดับต่อไป พร้อมดำเนินภารกิจในการจัดเตรียมการประชุม ซึ่งทบวงกีฬาไต้หวันจะช่วยให้คำปรึกษาแก่ CTPC ในการลงนามในหนังสือสัญญาอย่างเป็นทางการ และการจัดเตรียมการประชุมต่อไป พร้อมนี้ ยังกำชับให้ CTPC ประสานการติดต่อกับ IPC อย่างใกล้ชิด และเตรียมมาตรการที่ตอบสนองต่อนโยบายการป้องกันโรคระบาดในประเทศ ด้วยการจัดวางแนวทางในการจัดการประชุมในรูปแบบไฮบริด ที่มีทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กันไป
การจัดการประชุมด้านการกีฬานานาชาติครั้งใหญ่ในไต้หวัน เป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญของทบวงกีฬา ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ จะช่วยให้ไต้หวันได้มีโอกาสเข้าร่วมในเวทีขององค์การระหว่างประเทศมากขึ้น อันจะส่งผลให้ไต้หวันได้รับโอกาสในการเข้าร่วมดำเนินภารกิจที่สำคัญขององค์การกีฬาระหว่างประเทศต่อไปในอนาคต