สำนักข่าว CNA วันที่ 22 มิ.ย. 64
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้แสดงความขอบคุณต่อสาธารณรัฐลิทัวเนีย ที่มีความประสงค์จะบริจาควัคซีนให้ไต้หวัน พร้อมกล่าวว่า ไต้หวันจะประสานความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน กับพันธมิตรที่ยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยต่อไป และพร้อมที่จะก้าวข้ามอุปสรรคที่เกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ไปพร้อมกับประชาคมโลก
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลลิทัวเนียได้ประกาศว่า จะบริจาควัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 20,000 โดสให้ไต้หวัน หลังจากที่รับทราบข่าว ปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งไปยัง Ms. Ingrida Simonyte นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลของลิทัวเนีย พร้อมกันนี้ ในช่วงค่ำของวันเดียวกันนั้น ปธน.ไช่ฯ ยังได้โพสต์ข้อความ Ačiū, Lietuva! ซึ่งมีความหมายว่า “ขอบคุณ ลิทัวเนีย” ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกด้วย
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ลิทัวเนีย ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในพื้นที่แถบทะเลบอลติกในภูมิภาคยุโรป นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เคยก้าวผ่านการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยและเสรีภาพ เช่นเดียวกันกับไต้หวัน จึงอาจกล่าวได้ว่า ลิทัวเนียเป็นประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันกับไต้หวัน และเป็นพันธมิตรที่เข้าอกเข้าใจสถานภาพของไต้หวันได้อย่างลึกซึ้ง
ปธน.ไช่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลายปีมานี้ รัฐบาลลิทัวเนียได้ร่วมทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ โดยในปีที่แล้ว ไต้หวันก็ได้ส่งมอบหน้ากากอนามัยจำนวน 100,000 ชิ้นให้ลิทัวเนีย เพื่อช่วยเหลือในการสกัดกั้นโรคโควิด – 19
เฉกเช่นเดียวกับที่ Mr. Gabrielius Landsbergis รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของลิทัวเนียได้โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ โดยระบุว่า “แม้ว่าจะเป็นการส่งมอบความช่วยเหลือที่ไม่มาก แต่พวกเรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ประสานความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวในการสกัดกั้นโรคโควิด – 19 ไปพร้อมกับประชาชนชาวไต้หวัน กลุ่มคนที่ยึดมั่นในค่านิยมด้านเสรีภาพ สมควรที่จะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
หลังจากที่ข่าวการบริจาควัคซีนให้ไต้หวันได้รับการเผยแพร่เป็นวงกว้าง ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็มีบรรดาชาวเน็ตไต้หวันกว่าพันคน ร่วมแห่แสดงความขอบคุณในทวิตเตอร์ของรมว.ต่างประเทศลิทัวเนีย นอกจากนี้ กลุ่มชาวเน็ตยังได้ร่วมหารือถึงแนวทาง “การตอบแทนน้ำใจ” ในโลกโซเชียลกันอย่างคึกคัก โดยมีประชาชนบางกลุ่มที่หลังจากรับทราบข่าวข้างต้น ก็ได้ตัดสินใจสั่งซื้อช็อกโกแลตจากลิทัวเนียโดยทันที ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการร้านค้าอย่างเป็นกันเอง