กระทรวงวัฒนธรรม วันที่ 24 มิ.ย. 64
เทศกาลศิลปะสิทธิมนุษยชนเกาะลวี่เต่า ปี 2021 (Green Island Human Rights Art Festival) ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดนิทรรศการ อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยนอกจากนิทรรศการรูปแบบออฟไลน์ที่มีอยู่เดิมแล้ว พิพิธภัณฑ์สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ยังได้มีการผลักดันกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป โดยไฮไลท์หลักของกิจกรรม ประกอบด้วย “การสัมมนาออนไลน์ประจำเทศกาลศิลปะสิทธิมนุษยชนเกาะลวี่เต่า 2021” ที่มีนายเกาจวิ้นหง ภัณฑารักษ์ที่รับผิดชอบจัดนิทรรศการในครั้งนี้ ดำเนินหน้าที่เป็นพิธีกร โดยมีกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ก็ยังมีการฉายสารคดีแบบออนไลน์ของ “เทศกาลภาพยนตร์ประจำเทศกาลศิลปะสิทธิมนุษยชนเกาะลวี่เต่า 2021” ด้วยความร่วมมือจากแพลตฟอร์มสารคดี Giloo โดยมีกำหนดการจัดฉายต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. นี้เป็นต้นไป
เทศกาลศิลปะสิทธิมนุษยชนเกาะลวี่เต่าในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “หากลวี่เต่าคือกระจกเงาบานหนึ่ง (Through the Reflection of Green Island)” โดยมีนายเกาจวิ้นหง เป็นภัณฑารักษ์ในการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ โดยได้นำเอาแนวคิดเกี่ยวกับ “การถูกจองจำ”และ“การปลดปล่อย” มาเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสรรค์ผลงาน ประกอบกับการค้นคว้าข้อมูล การลงพื้นที่สำรวจ การบันทึกภาพวิดีทัศน์ การเรียบเรียงบทความ และกิจกรรมทางศิลปะ ในการจัดแสดงที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิมนุษยชนในมุมมองต่างๆ โดยใช้การถูกจองจำและความทรงจำในช่วงเหตุการณ์ White Terror มาเป็นกระจกเงา สะท้อนภาพในปัจจุบัน
โดยเทศกาลในครั้งนี้ได้เชิญศิลปินจากทั้งในและต่างประเทศ รวม 19 กลุ่มเข้าร่วม โดยในจำนวนนี้ ประกอบด้วยศิลปินภายในประเทศ 16 กลุ่ม และกลุ่มศิลปินต่างประเทศอีก 3 กลุ่ม อันประกอบด้วย นายหลี่จวิ้นฟงจากฮ่องกง FX Harsono จากอินโดนีเซีย และ Narco จากญี่ปุ่น โดยในเทศกาล ได้มีการจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยจากทั้งในและต่างประเทศ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากแนวคิดด้านสิทธิมนุษยชนย รวม 22 ชิ้น
ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. เป็นต้นไป ภัณฑารักษ์ คือ นายเกาฯ จะใช้ 5 แนวคิดหลักในการจัดแสดงของเทศกาลศิลปะสิทธิมนุษยชนเกาะลวี่เต่าในปีนี้ จะเชิญให้ศิลปินที่จัดส่งผลงาน ร่วมแบ่งปันทรรศนะต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เกี่ยวกับการสร้างสรรค์ผลงาน ตั้งแต่การลงสำรวจพื้นที่ การร่วมจัดประชุมกับกลุ่มผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีต โดยการประชุมในแต่ละรอบจะติดต่อเชิญผู้เข้าร่วมที่ไม่ได้เป็นนักวิจารณ์งานศิลปะ มาร่วมเสนอความคิดเห็นจากมุมมองของคนนอกวงการ ที่มีต่อความเป็นไปได้ในการผลักดันสิทธิมนุษยชนผ่านผลงานศิลปะสมัยใหม่ต่อไป
