สภาบริหาร วันที่ 30 มิ.ย. 64
 
การประชุมเจรจาระหว่างไต้หวัน-สหรัฐฯ ภายใต้กรอบความตกลงทางการค้าและการลงทุน (Trade and Investment Framework Agreement, TIFA) ครั้งที่ 11 ได้จัดขึ้นผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา และได้ปิดฉากลงในช่วงบ่ายของวันเดียวกันอย่างราบรื่น โดยการประชุมในครั้งนี้ ตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายได้เข้าร่วมหารือระหว่างกัน ซึ่งตัวแทนฝ่ายไต้หวันมี นางหยางเจินหนี รองผู้อำนวยการสำนักงานเจรจาเศรษฐกิจและการค้า สภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) (Office of Trade Negotiations, OTN) เป็นหัวหน้าคณะ ส่วนตัวแทนฝ่ายสหรัฐฯ นำโดย Mr. Terrence J. McCartin ผู้ช่วยผู้แทนการค้าของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) โดยมีนายเติ้งเจิ้นจง รัฐมนตรีประจำสภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) นส.เซียวเหม่ยฉิน ผู้แทนไต้หวันประจำสหรัฐอเมริกา และ Mr. William Brent Christensen ผู้อำนวยการใหญ่สถาบันอเมริกาในไต้หวัน สำนักงานไทเป (AIT- Taipei office) เข้าร่วมกล่าวปราศรัยในการประชุมในครั้งนี้ด้วย
 
หลังเสร็จสิ้นการประชุม รมว.เติ้งฯ ได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อชี้แจงผลสัมฤทธิ์ของการเจรจาในครั้งนี้ โดยระบุว่า การประชุมภายใต้กรอบความตกลง TIFA ในครั้งนี้ ดำเนินไปอย่างราบรื่น ในระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายต่างร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็พอใจกับผลการเจรจาเป็นอย่างมาก ถือเป็นรากฐานสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ในเชิงลึกต่อไป โดยรมว.เติ้งฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไต้หวัน และต่างก็ยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพ และหลักนิติรัฐเช่นเดียวกัน อีกทั้งความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของไต้หวันด้วย เราจึงจำเป็นต้องประสานความร่วมมือในการก้าวไปข้างหน้าด้วยกันต่อไป
 
OTN แถลงว่า การประชุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือกันในประเด็นต่างๆ มากมาย รวมถึงด้านสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ห่วงโซ่อุปทาน เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การค้ารูปแบบดิจิทัล การอำนวยความสะดวกทางการค้า​ การเงิน การเกษตร สิ่งแวดล้อม แรงงาน และการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งต่างก็ได้รับผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมมากมาย
 
OTN ยังชี้อีกว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ให้การยอมรับในการผลักดันและการปฏิรูปการเปิดเสรีการค้าและการเคารพต่อมาตรฐานสากล ที่ไต้หวันได้มุ่งมั่นดำเนินการตลอดช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งเห็นพ้องต่อความสำคัญในการสร้างความร่วมมือด้านการค้าแบบทวิภาคี ด้วยเหตุนี้ ทั้งไต้หวัน – สหรัฐฯ จึงได้ตกลงที่จะผลักดันกลไกการทำงานด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย ด้วยการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้น และด้วยความร่วมมือข้างต้นนี้แสดงให้เห็นว่า การเจรจาระหว่างสองฝ่ายจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป และยังถือเป็นภารกิจสำคัญระหว่างทั้งสองฝ่ายในอนาคตด้วย
 
โดยฝ่ายสหรัฐฯ ได้แถลงว่า ในการประชุมครั้งนี้สหรัฐฯ ได้รับทราบถึงความประสงค์และความมุ่งมั่นตั้งใจของไต้หวันในการจัดทำความตกลงด้านการค้าแบบทวิภาคี พร้อมทั้งเห็นพ้องว่า การประชุมภายใต้กรอบความตกลง TIFA จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการวางรากฐานที่ดีสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกันในเชิงลึกต่อไป