สำนักข่าว CNA วันที่ 30 มิ.ย. 64
ต่อกรณีที่ Ms. Jen Psaki โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ ระบุว่า ไต้หวันถูกกีดกั้นไม่ให้ได้รับวัคซีนนั้น ในวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา ในส่วนของสถานการณ์การจัดหาวัคซีนนั้น ทางรัฐบาลไต้หวันได้จัดการแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบ เพื่อมิให้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมซึ่งอาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น ทำให้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าไม่มีข้อกังวลใดๆ แล้ว จึงจะประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
โดยเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายจางตุนหัน โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี กล่าวว่า หน่วยงานทุกภาคส่วนของรัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ไต้หวันได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 เพื่อให้มีแหล่งวัคซีนที่ถูกกฎหมาย มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นการสร้างหลักประกันด้านสุขภาพและความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชน
นอกจากนี้ นายจางฯ ยังกล่าวว่า ทั้งทำเนียบประธานาธิบดีและศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (CECC) ไต้หวัน ต่างเคยประกาศแล้วว่า ในส่วนของสถานการณ์การจัดหาวัคซีนนั้น ทางรัฐบาลไต้หวันได้จัดการแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบ เพื่อมิให้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมซึ่งอาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น การที่วัคซีนสามารถเดินทางมาถึงไต้หวันตามกำหนดอย่างปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้น หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดว่าไม่มีข้อกังวลใดๆ แล้ว หน่วยงานรัฐบาลจึงจะประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
นายจางฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า วัคซีนโมเดอร์นาจำนวน 2.5 ล้านโดสที่บริจาคโดยสหรัฐฯ จะทำการเปิดให้ฉีดนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป สำหรับการให้ความช่วยเหลือต่อไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรมและทันท่วงทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำเนียบปธน.ขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริงอีกครั้ง โดยภายใต้สถานการณ์ตึงเครียดที่วัคซีนไม่เพียงพอต่ออุปสงค์ทั่วโลกในระยะนี้ ทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐลิทัวเนีย และพันธมิตรด้านประชาธิปไตยต่างยื่นมือให้ความช่วยเหลือไต้หวัน ด้วยการบริจาควัคซีน ความสนับสนุนอันอบอุ่นที่ไต้หวันได้รับในครั้งนี้ เชื่อว่านอกจากประชาสังคมในไต้หวันจะรู้สึกขอบคุณแล้ว ยังรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากอีกด้วย