กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 1 ก.ค. 64
 
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (CECC) ไต้หวันประกาศว่า  เพื่อรับมือกับเชื้อไวรัสโควิด - 19 สายพันธุ์เดลตาที่ขณะนี้แพร่กระจายไปทั่วโลก และเป็นสายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดที่รุนแรง และเพื่อลดความเสี่ยงในการป้องกันไม่ให้ไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวแพร่กระจายเข้าสู่ชุมชนภายในประเทศ ตั้งแต่เวลา 12:00 น.ของวันที่ 2 ก.ค. เป็นต้นไป ตามเวลาในพื้นที่ไต้หวัน รัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการตรวจสุขภาพสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวัน ผ่านท่าอากาศยานและท่าเรือนานาชาติ ตามรายละเอียดดังนี้

1.หากเป็นผู้โดยสารขาเข้าที่เคยมี “ประวัติการเดินทางไปยังประเทศที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง” ภายในเวลา 14 วัน ก่อนการเดินทางเข้าสู่เขตแดนไต้หวัน ไม่ว่าจะเดินทางเข้ามาโดยทางอากาศยานหรือทางเรือ จะต้องเข้ากักตัวภายในสถานกักกันโรคที่รัฐจัดเตรียมไว้ เป็นเวลา 14 วัน โดยรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ นอกจากนี้ ยังต้องให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองแบบ PCR ทั้งก่อนและหลังครบกำหนดการกักตัว นอกจากนี้ ในช่วงการกักตัว ระหว่างวันที่ 10 – 12 ยังต้องทำการตรวจคัดกรองด้วย “ชุดทดสอบแบบรวดเร็ว” ด้วยตนเองภายในที่พักด้วย
 
2.หากเป็นผู้โดยสารขาเข้าที่ไม่เคยมี “ประวัติการเดินทางไปยังประเทศที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง”ภายในเวลา 14 วัน ก่อนการเดินทางเข้าสู่เขตแดนไต้หวัน ไม่ว่าจะเดินทางเข้ามาโดยทางอากาศยานหรือทางเรือ จำเป็นต้องให้ความร่วมมือในการเข้ารับการตรวจคัดกรองจากสารคัดหลั่งในลำคอ และการตรวจแบบ PCR จากนั้นต้องเดินทางไปเข้ารับการกักตัวที่โรงแรมที่ไว้รองรับสำหรับการกักตัว หรือสถานกักกันโรค โดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง เป็นระยะเวลา 14 วัน และจะต้องใช้บริการรถโดยสารที่จัดเตรียมไว้สำหรับการป้องกันโรคระบาด โดยก่อนครบกำหนดกักตัวในระหว่างวันที่ 12 – 14 จะต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองแบบ PCR นอกจากนี้ ในช่วงการกักตัว ระหว่างวันที่ 10 – 12 ยังต้องทำการตรวจคัดกรองด้วย “ชุดทดสอบแบบรวดเร็ว”ด้วยตนเองภายในที่พักอีกด้วย
 
3.ผู้โดยสารขาเข้าทั้งหมดที่มีผลการตรวจเป็นบวก จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจเรียงลำดับพันธุกรรมของไวรัสโควิด – 19

CECCเน้นย้ำว่า มาตรการควบคุมการเข้า – ออกประเทศตามแนวชายแดน นับเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ผู้โดยสารขาเข้าที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวัน จะต้องให้ความร่วมมือกับมาตรการตรวจคัดกรองตามแนวชายแดนอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเดินทางไปยังสถานกักกันโรคตามวิธีการเดินทางที่ CECC กำหนดไว้ ตลอดจนให้ความร่วมมือกับมาตรการป้องกันโรคระบาดในส่วนต่างๆ อย่างเคร่งครัด เพื่อบรรลุเป้าหมายการร่วมป้องกันโรคระบาดโดยภาคประชาชน ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้โรคระบาดแพร่กระจายเข้าสู่ภายในประเทศได้