กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 8 ก.ค. 64
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา นายหลี่ปั๋วจาง ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติของไต้หวัน (NHI) ได้เข้าร่วมการประชุมภายใต้หัวข้อระบบประกันสุขภาพของไต้หวัน ที่จัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์และสาธารณสุขนานาชาติ (International Health Economics Association,iHEA) โดยหลี่ฯ ได้ร่วมบรรยายในหัวข้อการรับมือกับสถานการณ์โควิด – 19 ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในระบบประกันสุขภาพ โดยยกตัวอย่างของไต้หวัน พร้อมนี้ หลี่ฯ ยังได้ร่วมแบ่งปันแนวทางการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ของไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว ที่ได้ประยุกต์ใช้ระบบ MediCloud และการวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้าของระบบประกันสุขภาพ เพื่อดำเนินการจัดตั้งระบบการป้องกันโรคระบาดด้วยเทคโนโลยีและการป้องกันโรคระบาดอย่างตรงจุด ซึ่งประสบความสำเร็จในการสกัดกั้นโรคระบาดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การประชุมภายใต้หัวข้อระบบประกันสุขภาพของไต้หวันที่จัดโดย iHEA มีนางเจิ้งจงเหม่ย นักวิจัยนโยบายด้านสุขภาพของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันแห่งสหรัฐอเมริกา ทำหน้าที่เป็นประธาน โดยมี Mr. Adrian Towse ผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ของสำนักงานเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข (Office of Health Economics, OHE) แห่งอังกฤษ Dr. Yasuki Kobayashi ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโตเกียว และ Dr. Cathrine Mihalopoulos ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Deakin University แห่งออสเตรเลีย เข้าร่วมพูคคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการประชุมครั้งนี้ เนื่องด้วยขณะนี้ทั่วโลกยังคงอยู่ในระหว่างสถานการณ์โควิด – 19 การประชุมในครั้งนี้จึงได้จัดขึ้นผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ผอ.หลี่ฯ แถลงว่า ในระหว่างที่สถานการณ์โรคโควิด – 19 เริ่มต้นแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในปี 2020 คลังข้อมูลในระบบประกันสุขภาพและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ นับเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ไต้หวันประสบความสำเร็จด้านการป้องกันโรคระบาด ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดยในระหว่างสถานการณ์โควิด – 19 NHI ได้ทำการบูรณาการทรัพยากรแบบข้ามหน่วยงาน เพื่อสร้างกลไกการทำงานของ “ระบบ MediCloud” พร้อมจัดตั้งระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เพื่อรวบรวมประวัติการเดินทาง (Travel) ประเภทอาชีพ (Occupation) ประวัติการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน (Contact) หรือประวัติการรวมกลุ่มกับกลุ่มชน (Cluster) หรือที่เรียกโดยรวมว่า TOCC ของกลุ่มประชาชนที่เข้ารับการรักษา ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้การป้องกันโรคระบาดเกิดช่องโหว่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ ทั่วทุกพื้นที่ในไต้หวันได้เข้าสู่มาตรการป้องกันโรคระบาด ระดับ 3 เพื่อขานรับมาตรการดังกล่าว ทาง NHI จึงได้จัดตั้งกลไกการวินิจฉัยโรคผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยในอนาคตจะเตรียมพิจารณาจัดทำแอปพลิเคชันสมุดบันทึกสุขภาพ และมุ่งไปสู่การพัฒนาให้เกิดเป็นพาสปอร์ตด้านการป้องกันโรคระบาดส่วนบุคคลด้วย
ทั้งนี้ iHEA ถือเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญในการรวมกลุ่มของนักวิชาการจากนานาประเทศ เพื่อร่วมหารือข้อมูลด้านหลักเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขและระบบการดูแลสุขภาพ โดย NHI ได้เข้าเป็นสมาชิกของ iHEA ตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา โดยในการประชุมครั้งนี้ ทางสมาคมได้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อระบบสาธารณสุขของไต้หวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ NHI รับหน้าที่เป็นตัวแทนรายงานผลสัมฤทธิ์และการพัฒนาระบบประกันสุขภาพของไต้หวัน เพื่อให้ประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จของไต้หวันเหล่านี้ ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ