ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 17 ก.ค. 64
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 ก.ค. ทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดงานแถลงข่าวหลัง “การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ” โดยดร. จางจงโหมว ตัวแทนผู้นำไต้หวันที่เข้าร่วมการประชุม ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์การประชุมในครั้งนี้ พร้อมทั้งตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการชี้แจง
ดร.จางฯ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็น “การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ” ซึ่งนิวซีแลนด์เป็นประเทศเจ้าภาพในปีนี้ จัดขึ้นเป็นรอบพิเศษ โดยเนื้อหาการกล่าวปราศรัยของดร.จางฯ ในระหว่างการประชุม สามารถสรุปได้โดยสังเขป ดังนี้
เมื่อทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ไต้หวันยังคงสามารถรักษามาตรฐานการป้องกันโรคระบาดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ตราบจนปัจจุบัน เชื่อว่า ประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญที่พวกเราได้สั่งสมมา จะสามารถเป็นประโยชน์ต่อประเทศสมาชิกกลุ่มเอเปค โดยไต้หวันยังคงยินดีส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้แก่ประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน พวกเราก็ต้องการความช่วยเหลือจากประชาคมโลกเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ พวกเราต้องการความช่วยเหลือจากประเทศสมาชิกกลุ่มเอเปคที่สามารถผลิตวัคซีนได้ในปริมาณมากกว่าความต้องการภายในประเทศ
สำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังยุคโควิด – 19 Chinese Taipei ได้กระตุ้นให้ประเทศสมาชิกกลุ่มเอเปค เร่งส่งเสริมการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิก ตลอดจนทั่วโลก หลังจากที่คำนึงถึงความต้องการด้านความมั่นคงแห่งชาติที่มีความสำคัญแล้ว
ในช่วงที่ผ่านมา พวกเราได้จับตากระแสเรียกร้องให้ผู้ผลิตชิปวงจรรวม ต้องตอบสนองอุปสงค์ภายในประเทศอย่างเพียงพอ โดยพวกเราเห็นด้วยกับความกังวลเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ และเชื่อว่า ภายใต้ปัจจัยด้านความมั่นคงแห่งชาติ การมีห่วงโซ่อุปทานที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการภายในประเทศได้อย่างเพียงพอ ถือเป็นแนวทางการปฏิบัติที่รอบคอบ แต่ถึงกระนั้น สำหรับตลาดเอกชนที่มีขนาดใหญ่กว่าเป็นจำนวนมาก ห่วงโซ่อุปทานที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของระบบการค้าเสรี ก็ยังถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในตอนนี้
กล่าวโดยสรุป ต่อกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 Chinese Taipei สามารถให้ความช่วยเหลือ ซึ่งพวกเรายินดี และพร้อมให้ความช่วยเหลือโดยอาศัยประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมา ซึ่งในขณะเดียวกัน เราก็มีความต้องการด้านวัคซีนเฉกเช่นเดียวกันกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ในกลุ่มเอเปค สำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังยุคโควิด – 19 Chinese Taipei ได้กระตุ้นให้ประชาคมโลกตระหนักถึงความสำคัญของการเปิดเสรีทางการค้า หลังจากที่ได้คำนึงถึงปัจจัยความมั่นคงแห่งชาติแล้ว
ในตอนท้าย ดร.จางฯ ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวกับความคืบหน้าหรือฉันทามติขั้นต้นในประเด็นความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานด้านวัคซีน ที่ทำร่วมกับประเทศที่มีกำลังผลิตวัคซีนได้เป็นปริมาณมาก โดย ดร.จางฯกล่าวว่า ในบรรดา 21 ประเทศสมาชิก มีเพียงสหรัฐฯ จีน และรัสเซียที่มีกำลังในการผลิตวัคซีน ดังนั้นข้อคิดเห็นของ 3 ประเทศนี้จึงแตกต่างจากประเทศสมาชิกอีก 18 ชาติ อย่างไรก็ตาม ฉันทามติของเหล่าประเทศสมาชิก คือ ต้องสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน