กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 31 ก.ค. 64
วัคซีนแอสตราเซเนกา (AZ) จำนวน 20,000 โดสที่รัฐบาลสาธารณรัฐลิทัวเนียบริจาคให้กับไต้หวัน ได้ลำเลียงมาจากกรุงวิลนีอุส เมืองหลวงของลิทัวเนีย ในช่วงบ่ายของวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาในพื้นที่ และได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวนของไต้หวันในช่วงเช้าของวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมาแล้ว นางอู๋ซิ่วเหมย ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และนายเฉินลี่กั๋ว อธิบดีกรมยุโรปแห่งกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางไปรับมอบสินค้า ณ ท่าอากาศยานฯ ด้วยตนเอง รัฐบาลไต้หวันจึงขอแสดงความขอบคุณต่อความกล้าหาญอันเด็ดเดี่ยวของรัฐบาลและประชาชนลิทัวเนียจำนวน 2.8 ล้านคนด้วยใจจริง
หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลลิทัวเนีย ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลลิทัวเนียก็ได้ประกาศบริจาควัคซีน AZ จำนวน 20,000 โดสให้กับไต้หวัน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการประสานความร่วมมือในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ร่วมกับไต้หวัน Mr. Gabrielius Landsbergis รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของลิทัวเนีย ระบุว่า “กลุ่มผู้ยึดมั่นในค่านิยมด้านเสรีภาพ สมควรที่จะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” โดยวัคซีนที่รัฐบาลลิทัวเนียประสงค์จะบริจาคให้กับไต้หวัน เดิมมีกำหนดการจัดส่งมาถึงไต้หวันช่วงเดือนกันยายน แต่จากการผลักดันอย่างกระตือรือร้นของรัฐบาลลิทัวเนีย และการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ วัคซีนล็อตดังกล่าวจึงสามารถส่งมาถึงไต้หวันได้ก่อนกำหนดการล่วงหน้า 2 เดือน ไต้หวันรู้สึกชื่นชมและประทับใจในน้ำใจและประสิทธิภาพด้านการบริหารประเทศของรัฐบาลลิทัวเนียเป็นอย่างมาก
ลิทัวเนียและไต้หวันต่างก็ยึดมั่นในค่านิยมด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน และต่างก็เป็นแนวหน้าที่ปกป้องระบอบประชาธิปไตยและเสรีภาพ อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรด้านการสกัดกั้นโรคโควิด – 19 ที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่มาโดยตลอด โดยในปีที่แล้ว รัฐบาลไต้หวันได้บริจาคหน้ากากอนามัยทางการแพทย์จำนวน 100,000 ชิ้นให้กับลิทัวเนีย เพื่อช่วยเหลือด้านการป้องกันโรคระบาด ส่วนในปีนี้ที่ทั่วโลกต่างเผชิญหน้ากับวิกฤตการขาดแคลนวัคซีนป้องกันโรคระบาด แต่ถึงกระนั้น รัฐบาลลิทัวเนียก็ยังได้ยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือไต้หวันอย่างกระตือรือร้น สร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ประชาชนชาวไต้หวันจำนวน 23.5 ล้านคนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างสองประเทศ ตลอดจนเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงพลังแห่งความดีที่หมุนเวียนอยู่ในสังคมโลกด้วย
