ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 11 ส.ค. 64
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมกล่าวปราศรัยผ่านการบันทึกวิดีทัศน์ล่วงหน้าใน “การประชุมสามัญประจำปีรูปแบบออนไลน์ว่าด้วยการจัดตั้งบ้านพักฉุกเฉินสำหรับสตรีประจำภูมิภาคเอเชีย (Asian Network of Women's Shelters, ANWS) ปี 2021” โดยปธน.ไช่ฯ ระบุว่า รัฐบาลไต้หวันได้เร่งขยายจัดตั้งบ้านพักอาศัยเพื่อสังคมที่มีคุณภาพและคิดค่าเช่าในอัตราขั้นต่ำ เพื่อช่วยบรรเทาแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อสตรี เด็กและกลุ่มผู้ด้อยโอกาส พร้อมทั้งส่งเสริมให้พวกเขาเหล่านี้ได้รับโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ บรรลุความเป็นธรรมด้านการพำนักอาศัยของประชาชนอย่างเท่าเทียมและเป็นรูปธรรม พร้อมหวังว่าจะสามารถปกป้องและคุ้มครองสิทธิของสตรีและเด็กไปพร้อมกับประชาคมโลก ผ่านการร่วมหารือและแบ่งปันประสบการณ์ของนานาประเทศในการประชุมสามัญประจำปีในครั้งนี้
 
คำปราศรัยของปธน.ไช่ฯ มีสาระสำคัญดังนี้

ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมการประชุมแบบออนไลน์ในวันนี้ ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการปกป้องสิทธิมนุษยชนของสตรีและเด็ก ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยตั้งแต่ที่มีการก่อตั้งองค์กรเครือข่ายคุ้มครองสิทธิสตรีโลก (Global Network of Women's Shelters, GNWS) เป็นต้นมา ก็ได้มุ่งมั่นในการขจัดความรุนแรงต่อสตรีและเด็กทั่วโลก

โดยเครือข่าย ANWS และพันธมิตรที่เกี่ยวข้องต่างร่วมเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมให้ความสำคัญต่อกลุ่มสตรีและเด็กที่ถูกกระทำด้วยความรุนแรง พร้อมยื่นมือให้ความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาด้านความต้องการบ้านพักฉุกเฉินและที่พักอาศัยเพื่อสังคมของเหล่าผู้ถูกกระทำ
 
ในไต้หวัน มูลนิธิลี่ซิน (The Garden of Hope Foundation) ได้มุ่งมั่นดำเนินภารกิจที่สำคัญหลายประการ โดยก่อนหน้านี้ บ้านพักฉุกเฉินมักจะให้บริการแก่ผู้ที่มีความต้องการเร่งด่วนเข้าพักเป็นการชั่วคราว แต่การที่จะส่งเสริมให้สตรีที่ประสบปัญหาเหล่านี้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกตินั้น บ้านพักฉุกเฉินจำเป็นต้องให้ความสนับสนุนด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง ในช่วงระหว่างที่ให้ความช่วยเหลือด้วย
 
โดยมูลนิธิลี่ซินจะช่วยเหลือกลุ่มสตรีในการกลับสู่การดำเนินชีวิตของตัวเองตามปกติ ผ่านการฝึกอบรมวิชาชีพ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายและการเงิน
 
การประชุมในครั้งนี้ ได้รวบรวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญในภูมิภาคเอเชีย ร่วมแบ่งปันความคิดเห็น เพื่อมอบประสบการณ์ด้านการเรียนรู้ที่ล้ำค่าให้กับผู้เข้าร่วมการประชุม เชื่อว่าการประชุมครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนหารือในประเด็นต่างๆ ที่สำคัญในภายภาคหน้า และจุดประกายแนวคิดด้านการกำหนดนโยบายในอนาคตต่อไป