กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 31 ส.ค. 64
 
“การประชุม Ketagalan－ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ประจำปี 2021 ” (Ketagalan Forum—2021 Asia-Pacific Security Dialogue) ที่ร่วมจัดโดยกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และมูลนิธิ The Prospect Foundation ได้เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 การประชุมในปีนี้จึงได้ปรับเปลี่ยนมาจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ เพื่อส่งเสริมให้นักการเมือง นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในประเทศที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นด้านสถานการณ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน การพัฒนาของ “การรวมกลุ่มเจรจาด้านความมั่นคงปลอดภัยระหว่างภาคี 4 ประเทศ (QUAD)” ภัยคุกคามในพื้นที่สีเทา และการจัดตั้งห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้ รวมถึงประเด็นความมั่นคงในยุคหลังโควิด – 19
 
โดยประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ร่วมกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุม ผ่านการบันทึกวิดีทัศน์ล่วงหน้า โดยปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า ลัทธิอำนาจนิยมเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในระหว่างสถานการณ์โควิด – 19 แต่ถึงกระนั้น กลุ่มประเทศประชาธิปไตยก็ยังคงรักษาไว้ซึ่งระบอบการปกครองและค่านิยมสากลในยุคหลังโควิด – 19 อย่างมุ่งมั่น โดยไต้หวันสามารถเป็นเสาหลักที่ส่งเสริมให้เกิดสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาในภูมิภาคได้
 
H.E. Kelly Craft ผู้แทนถาวรของสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ (UN) ได้รับเชิญให้เข้าร่วมแสดงปาฐกถาในฐานะผู้บรรยายคนสำคัญ (keynote speaker) โดย H.E. Craft กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับไต้หวันเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่รัฐบาลทรัมป์มาจนถึงรัฐบาลไบเดน ต่างก็ยึดมั่นในการให้ความสำคัญต่อไต้หวันไม่แพ้กัน โดยตลอดระยะเวลาที่ ตนดำรงตำแหน่งเป็นผู้แทนถาวรของสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ก็ได้มุ่งมั่นในการขัดขวางไม่ให้ UN กีดกันไต้หวัน ซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตย นอกจากนี้ H.E. Craft ยังได้โจมตีรัฐบาลจีนที่อาศัยเหตุการณ์ในสงครามตาลีบันยึดอัฟกานิสถาน ตั้งข้อสงสัยต่อคำมั่นที่สหรัฐฯ มีต่อไต้หวัน โดย H.E. Craft เน้นย้ำว่า หากไต้หวันล่มสลาย ความมั่นคงในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกก็ไม่สามารถคงอยู่ต่อไปได้ นอกจากนี้ H.E. Craft ยังได้ให้การยอมรับปธน.ไช่ฯ ที่ได้ยืนหยัดในการธำรงรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมให้คงอยู่ต่อไป
 
นอกจากนี้ นายเถียนจงกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้ร่วมแถลง โดยอ้างอิงคำพูดของ Mr. Benjamin Franklin หนึ่งในผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กล่าวไว้ว่า “ผู้ที่ละทิ้งเสรีภาพเพื่อแลกมาซึ่งความมั่นคงเพียงชั่วคราว จะไม่ได้รับทั้งเสรีภาพและความมั่นคง” เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการป้องกันประเทศของไต้หวัน
 
การประชุมในครั้งนี้แบ่งการอภิปรายออกเป็น  4 รอบ เพื่อร่วมหารือในประเด็นที่แตกต่างกัน ได้แก่ “ความท้าทายของสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสองฝั่งช่องแคบไต้หวันที่มีต่อความสงบเรียบร้อยทางเสรีภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก” “การเดินเรือในน่านน้ำสากล : แนวทางการประสานความร่วมมือในการรับมือกับความท้าทายในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกของการรวมกลุ่มเจรจาด้านความมั่นคงปลอดภัยระหว่างภาคี 4 ประเทศ และการประชุมรอบพิเศษ QUAD+” “แนวทางการรับมือกับภัยคุกคามในพื้นที่สีเทาในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้” และ “การวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด – 19 : การปฏิรูปเศรษฐกิจในยุคโลกาภิวัตน์และจัดตั้งห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้” โดยการประชุมในครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งที่อยู่ในวาระและหมดวาระ รวมถึงนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ รวม 16 คนเข้าร่วมหารือแลกเปลี่ยนกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องในเชิงลึกผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์