กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 22 ต.ค. 64
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาในเขตตะวันออกของสหรัฐฯ Mr. Rick Waters รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชีย – แปซิฟิก ได้จัดการประชุมสัมมนารูปแบบออนไลน์ เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการผ่านญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 ขึ้น ณ สำนักงานของกองทุนเยอรมัน มาร์แชลล์ (German Marshall Fund of the United States, GMF) ซึ่งเป็นคลังสมองของทางการวอชิงตัน เพื่อร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในสหประชาชาติ (UN) พร้อมทั้งวิจารณ์รัฐบาลจีนที่นำเอาเนื้อความในญัตติฉบับข้างต้น มาใช้กดดันมิให้ UN เปิดรับไต้หวันเข้าร่วม พร้อมนี้ Mr. Waters ยังได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิก UN เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วมใน UN อย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอขอบคุณสหรัฐฯ ด้วยใจจริงสำหรับการสนับสนุนอย่างหนักแน่นให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมใน UN ในครั้งนี้
สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็นประเทศประเทศประชาธิปไตยที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง มิได้มีส่วนเกี่ยวพันใดๆ กับสาธารณรัฐประชาชนจีน มีเพียงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้น จึงจะมีสิทธิเป็นตัวแทนของประชาชนชาวไต้หวันจำนวน 23.5 ล้านคนในการเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึง UN ด้วย
นับตั้งแต่ที่รัฐบาลโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งเป็นต้นมา ได้มีการยืนยันถึงการเคารพในคำมั่นที่ให้ไว้กับไต้หวันตาม “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” และ “หลักประกัน 6 ประการ” หลายครั้ง พร้อมเน้นย้ำว่า คำมั่นที่สหรัฐฯ มีต่อไต้หวัน “แข็งแกร่งดุจหินผา” นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ Mr. Antony Blinken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และ Mr. Xavier Becerra รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและการบริการสังคมของสหรัฐฯ ก็ได้กล่าวให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม “การประชุมสมัชชาอนามัยโลก” (WHA) อย่างเปิดเผย โดยในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 76 สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ยังได้ร่วมจัด “การประชุมระหว่างรัฐมนตรีสองประเทศ” พร้อมทั้งออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนไต้หวันของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งรัฐบาลของไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ และประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ภายใต้พื้นฐานอันแข็งแกร่งที่มีอยู่เดิมต่อไป