กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 24 พ.ย. 64
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา เตรียมทำหน้าที่เป็นประธานใน “การประชุมสุดยอดประชาธิปไตย” (Summit for Democracy) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในระหว่างวันที่ 9 – 10 ธ.ค. นี้ พร้อมนี้ ปธน.โจ ไบเดนยังได้เชิญให้ไต้หวันเข้าร่วมอย่างเป็นทางการแล้ว โดยออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีประจำสภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และนางสาวเซียวเหม่ยฉิน ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำสหรัฐฯ จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลไต้หวันเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยในการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการรวมตัวของเหล่าผู้นำหรือตัวแทนจากกลุ่มประเทศประชาธิปไตยนับร้อยกว่าประเทศทั่วโลก เพื่อร่วมหารือกันใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การป้องกันและต่อต้านลัทธิอำนาจนิยม การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันและการส่งเสริมสิทธิมุนษยชน กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอแสดงความขอบคุณต่อปธน.โจ ไบเดน ที่ได้เชิญไต้หวันเข้าร่วมการประชุมสุดยอดประชาธิปไตย ที่เตรียมจะเปิดฉากขึ้นในเร็ววันนี้ โดยในระหว่างการประชุม รมว.ถังฯ จะประกาศให้ประชาคมโลกได้ประจักษ์ถึงความมุ่งมั่นของไต้หวัน ที่ต้องการจะร่วมปกป้องประชาธิปไตยอย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งจะร่วมแบ่งปันแนวทางการเสริมสร้างระบบธรรมาภิบาล ผ่านเทคโนโลยีและประชาธิปไตยดิจิทัล ที่ประสบความสำเร็จของไต้หวัน เพื่อประโยชน์ต่อมิตรประเทศทั่วโลก
กต.ไต้หวันย้ำว่า การที่ไต้หวันได้รับเชิญให้เข้าร่วม “การประชุมสุดยอดประชาธิปไตย” ถือเป็นการได้รับการยอมรับในความมุ่งมั่นที่ไต้หวันเร่งผลักดันค่านิยมด้านประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนมาเป็นระยะเวลายาวนาน เพื่อขานรับต่อแผนผลักดันในการประชุมครั้งนี้ของสหรัฐฯ รัฐบาลไต้หวันได้ยื่นเสนอคำมั่นอย่างเป็นรูปธรรมหลายประการ ประกอบด้วย การดำเนินการตาม “แผนปฏิบัติการด้านสิทธิมนุษยชน” ชุดแรกของไต้หวัน การผลักดันประเด็นประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กรอบความร่วมมือ Global Cooperation and Training Framework (GCTF) โดยเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ไต้หวัน – สหรัฐฯ ยังได้ร่วมจัด “การประชุมหารือว่าด้วยการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ระหว่างไต้หวัน สหรัฐฯ และภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ครั้งที่ 3”
นอกจากนี้ “คู่มือยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ ฉบับชั่วคราว” (Interim National Security Strategic Guidance) ที่ประกาศโดยการประชุมของสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวแห่งสหรัฐฯ ในปีนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูงของสหรัฐฯ หลายคน ต่างทยอยออกมาให้การยอมรับต่อผลสัมฤทธิ์ด้านประชาธิปไตยของไต้หวันอย่างเปิดเผย
ตลอดหลายปีมานี้ ไต้หวันมุ่งมั่นในการธำรงรักษาระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ จนทำให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เด่นชัด อีกทั้งยังได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายจากประชาคมโลก โดยไต้หวันมีความยินดีที่จะร่วมแบ่งปันเรื่องราวแห่งประชาธิปไตยที่ประสบความสำเร็จของไต้หวันในการประชุมครั้งนี้ด้วย
