สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง วันที่ 24 พ.ย. 64
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัด “การประชุมเชิงปฏบัติการด้านการต่างประเทศ” (Foreign Affairs Workshop) ประจำปี 2021 โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่ภาครัฐของสำนักงานตัวแทนรัฐบาลประเทศต่างๆในไต้หวัน รวม 42 คน จาก 21 ประเทศ เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งคณะตัวแทนที่เข้าร่วมการประชุมต่างยกย่องผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน พร้อมแสดงความชื่นชมสตม. ที่ให้ความช่วยเหลือรัฐบาลในภารกิจการป้องกันโรคระบาดในภาพรวม โดยเฉพาะการควบคุมการเข้า – ออกประเทศของประชาชน และการสร้างหลักประกันด้านจิตใจที่มั่นคงให้แก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวัน
การประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ สตม.ได้ร่วมแบ่งปันขั้นตอนการยื่นขออนุมัติ ตามกฎหมายว่าด้วยการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติ (Act for Recruitment and Employment of Foreign Professionals) หรือ “Foreign Professionals Act” และกรณีศึกษาว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามเครือข่ายการค้ามนุษย์ รวมไปถึงการที่ไต้หวันถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Tier 1 ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ติดต่อกันเป็นปีที่ 12
สตม.ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เพื่อขานรับนโยบายด้านการป้องกันโรคระบาดของรัฐบาล ทางสตม. จึงได้ร่างแนวทาง “แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันโรคระบาดด้วยการตรวจคัดกรองสำหรับชาวต่างชาติ” เพื่อส่งเสริมให้ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไต้หวันเกินกำหนดระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต กล้าที่จะมารับการตรวจคัดกรอง ทั้งนี้ เพื่อสร้างหลักประกันด้านสุขภาพให้กับกลุ่มเป้าหมาย และป้องกันการเกิดช่องโหว่ของการแพร่ระบาดภายในประเทศอย่างไม่สิ้นสุด ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไต้หวันก็ได้ปรับมาตรการที่เกี่ยวข้อง ด้วยการขยายเวลาการพำนักของชาวต่างชาติในไต้หวันอย่างถูกกฎหมายเกิน180 วัน ออกไปอีกเป็นเวลา 30 วันโดยอัตโนมัติ ซึ่งตราบจนปัจจุบัน เป็นครั้งที่ 17 แล้ว ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสัมผัสใกล้ชิดที่ไม่จำเป็นและเพื่อควบคุมการเข้า – ออกประเทศของประชาชน ซึ่งนอกจากสตม.จะให้ความร่วมมือกับมาตรการป้องกันโรคระบาดแล้ว ทางหน่วยงานยังได้เสริมสร้างการประชาสัมพันธ์ข้อมูลว่าด้วยการห้ามนำเข้าหรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ทุกชนิดเข้าสู่ไต้หวัน เพื่อสกัดกั้นโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร (ASF) ไม่ให้ลุกลามเข้าสู่ไต้หวัน
สตม.ได้จัดกิจกรรม “การประชุมเชิงปฏบัติการด้านการต่างประเทศ” นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ตราบจนปัจจุบัน เพื่อมุ่งมั่นในการสรรค์สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรให้แก่ชาวต่างชาติในไต้หวัน