ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
สตม.ชี้ CECC ยืนยัน หากแรงงานต่างชาติที่หลบหนีมาเข้ารับการฉีดวัคซีนจะไม่ถูกหน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยจับกุม พร้อมแจ้งให้ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือกับนโยบายป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด
2021-12-09
New Southbound Policy。สตม.ชี้ CECC ยืนยัน หากแรงงานต่างชาติที่หลบหนีมาเข้ารับการฉีดวัคซีนจะไม่ถูกหน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยจับกุม พร้อมแจ้งให้ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือกับนโยบายป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด (ภาพจาก CNA)
สตม.ชี้ CECC ยืนยัน หากแรงงานต่างชาติที่หลบหนีมาเข้ารับการฉีดวัคซีนจะไม่ถูกหน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยจับกุม พร้อมแจ้งให้ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือกับนโยบายป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด (ภาพจาก CNA)

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง วันที่ 8 ธ.ค. 64
 
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการกลางควบคุมโรคระบาด (CECC) ของไต้หวัน ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีที่สื่อมวลชนรายงานข่าวว่า มีแรงงานต่างชาติที่หลบหนีจากสัญญาจ้างในเมืองซินจู๋ ถูกจับกุมตัวหลังเข้ารับวัคซีน ซึ่ง CECC ขอชี้แจง ดังต่อไปนี้

1. CECC ชี้ว่า เพื่อยกระดับอัตราการฉีดวัคซีนของประชาชนในไต้หวันให้ครอบคลุมอย่างทั่วถึง CECC และกองอนามัยของเทศบาลในแต่ละพื้นที่ จึงได้จัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนขึ้นในหลายพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมถึงชาวต่างชาติที่พำนักในไต้หวัน ให้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้อย่างทั่วถึง ส่วนกรณีที่มีแรงงานต่างชาติที่หลบหนีจากสัญญาจ้างในเมืองซินจู๋ ถูกจับกุมตัวหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้น ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2564 ได้มีการยืนยันอีกครั้งว่า หน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของชาติ จะไม่เข้าควบคุมตัวแรงงานต่างชาติที่มีการหลบหนี ซึ่ง CECC ได้แจ้งไปยังหน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยแล้ว เพื่อขอให้ปฏิบัติตามนโยบายการป้องกันโรคระบาดของ CECC อย่างเคร่งครัด  

2. CECC ขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของชาวต่างชาติที่พำนักในไต้หวันเกินกว่าช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งทำการลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีน จะไม่ถูกส่งต่อเพื่อเป็นหลักฐานให้กับหน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยในชั้นนี้ หน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของชาติ จะยึดมั่นในภารกิจหลักด้านการป้องกันโรครระบาดเป็นอันดับแรก จึงขอแจ้งให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องรับทราบโดยทั่วกัน  

3. CECC ยืนยันว่า เพื่อสร้างหลักประกันด้านความมั่นคงปลอดภัยด้านการป้องกันโรคระบาดในพื้นที่ชุมชนไต้หวัน CECC จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านแรงงาน สาธารณสุขและความสงบเรียบร้อย รวมถึงสตม. ให้ความร่วมมือกับนโยบายด้านการป้องกันโรคระบาดของ CECC พร้อมนี้ CECC ยังเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติการตาม 4 หลักการของสตม. ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้แก่ ไม่รายงาน ไม่ตรวจสอบ ไม่คิดค่าใช้จ่ายและไม่ควบคุมตัว ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ชาวต่างชาติที่พำนักในไต้หวันเกินกว่าเวลาที่กำหนด มีความกล้าที่จะเดินทางมารับการฉีดวัคซีน เพื่อร่วมรักษาความมั่นคงด้านการป้องกันโรคระบาดในไต้หวันต่อไป