ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กต.ไต้หวันรู้สึกยินดีและขอบคุณการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ G7 ที่ออกแถลงการณ์ การให้ความสำคัญกับสันติภาพช่องแคบไต้หวัน พร้อมทั้งแสดงความห่วงใยต่อ “นโยบายเศรษฐกิจแบบบีบบังคับ”
2021-12-14
New Southbound Policy。กต.ไต้หวันรู้สึกยินดีและขอบคุณการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ G7 ที่ออกแถลงการณ์ การให้ความสำคัญกับสันติภาพช่องแคบไต้หวัน พร้อมทั้งแสดงความห่วงใยต่อ “นโยบายเศรษฐกิจแบบบีบบังคับ” (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
กต.ไต้หวันรู้สึกยินดีและขอบคุณการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ G7 ที่ออกแถลงการณ์ การให้ความสำคัญกับสันติภาพช่องแคบไต้หวัน พร้อมทั้งแสดงความห่วงใยต่อ “นโยบายเศรษฐกิจแบบบีบบังคับ” (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 13 ธ.ค. 64
 
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนําของโลก 7 ชาติ (Group of Seven, G7) ซึ่งสหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ณ เมืองลิเวอร์พูล ได้ออกแถลงการณ์ในฐานะประเทศเจ้าภาพ  โดยสาระสำคัญในแถลงการณ์นอกจากจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ที่ระบุไว้ในรายงานการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศ G7 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม และรายงานการประชุมสุดยอดผู้นำที่จัดขึ้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว ยังได้แสดงความห่วงใยต่อ “นโยบายเศรษฐกิจแบบบีบบังคับ”  นับเป็นครั้งที่ 3ของปีนี้ที่รัฐบาลอังกฤษในฐานะประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่ม G7 ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน พร้อมทั้งแสดงความห่วงใยต่อกรณีที่รัฐบาลจีนอาศัยเครื่องมือทางเศรษฐกิจในการสร้างแรงกดดันทางการเมือง กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอบคุณด้วยใจจริง
 
ในปีนี้ นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดผู้นำประเทศระหว่างสหรัฐฯ – ญี่ปุ่นในเดือนเมษายน การประชุมสุดยอดผู้นำประเทศระหว่างสหรัฐฯ – เกาหลีใต้ในเดือนพฤษภาคม รวมไปถึงการประชุมสุดยอดผู้นำ EU - ญี่ปุ่น การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่มประเทศ G7 ตลอดจนการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมระหว่างญี่ปุ่น – ออสเตรเลีย และการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G7 เป็นต้นมา เหล่ารมว.กต.ของกลุ่มประเทศ G7 ก็ยังคงให้ความสำคัญกับสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าจุดยืนด้านการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ถือเป็นฉันทามติสูงสุดร่วมกันของเหล่าผู้นำประเทศและเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย อาทิ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี แคนาดา และประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป นอกจากนี้ แถลงการณ์ในฐานะประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมรมว.กต.กลุ่มประเทศ G7 ยังครอบคลุมไปถึงประเด็นต่างๆ ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ อาทิ สภาพภูมิอากาศ สาธารณสุข สถานการณ์ล่าสุดในภูมิภาค และหลักธรรมาภิบาลแบบประชาธิปไตย เป็นต้น โดยเฉพาะประเด็นที่รัฐบาลจีนสร้างแรงกดดันต่อประเทศประชาธิปไตยด้วยเครื่องมือทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เนื้อความในแถลงการณ์ยังเรียกร้องให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยประสานสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว เพื่อรับมือกับแรงกดดันจากลัทธิอำนาจนิยมจากรัฐบาลจีนต่อไป

ไต้หวันในฐานะที่เป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกของภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกจะยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยที่มีความโปร่งใส คงไว้ซึ่งมาตรฐานระดับสูงและตั้งอยู่บนค่านิยมสากลต่อไป พร้อมทั้งจะร่วมจับมือกับประเทศสมาชิกของกลุ่มประเทศ G7 , EU รวมถึงประเทศและหุ้นส่วนที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นของสมาพันธ์ประชาธิปไตยระดับสากลและร่วมสนับสนุนการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เกิดแก่ภูมิภาคอินโด - แปซิฟิกสืบต่อไป