
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 8 ม.ค. 65
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. รัฐบาลสาธารณรัฐเช็ก ได้ประกาศแผนนโยบายพัฒนาประเทศ (Government Program Statement) โดย ในส่วนของนโยบายการทูต ทางรัฐบาลเช็กจะเร่งสร้างความร่วมมือกับไต้หวันและกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก อย่างเต็มที่ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – เช็กมีความแน่นแฟ้นในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาความสัมพันธ์แบบทวิภาคีที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ เพื่อร่วมรักษาไว้ซึ่งค่านิยมด้านประชาธิปไตยให้คงอยู่สืบไป
สาระสำคัญในแผนนโยบายข้างต้น ประกอบด้วย พิมพ์เขียวและทิศทางการดำเนินนโยบายในภาคส่วนต่างๆ ของรัฐบาลเช็ก โดยในด้านการทูตระหว่างประเทศ รัฐบาลเช็กจะส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประชาคมโลก บนพื้นฐานความสัมพันธ์เดิมที่มีอยู่ระหว่างสหภาพยุโรป (EU) องค์การนาโต้ (NATO) และประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ ยังจะมุ่งมั่นประสานความสัมพันธ์ทางการทูตกับกลุ่มประเทศเป้าหมายอย่างกระตือรือร้น อาทิ กลุ่มประเทศวิเชกราด (Visegrad Group, V4) เยอรมนี สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล และกลุ่มประเทศประชาธิปไตยในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ได้แก่ ไต้หวัน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
กต.ไต้หวันแถลงว่า ไต้หวัน – เช็กมีความสัมพันธ์อันดีมาเป็นเวลายาวนานา โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็มีความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน บนพื้นฐานค่านิยมร่วมด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว นายกงหมิงซิน ประธานคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ (National Development Council, NDC) ของไต้หวัน ได้นำคณะสำรวจโอกาสทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนของไต้หวันเดินทางเยือนประเทศในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก ซึ่งการเดินทางเยือนเช็กเกียในครั้งนั้น ได้เกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมากมาย โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกัน 5 ฉบับ ประกอบด้วย ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ด้านความร่วมมือด้านอวกาศ ด้านเทคโนโลยีตัวเร่งปฏิกิริยา ด้านพลังงานสีเขียวและด้านเครื่องจักรกลอัจฉริยะ ซึ่งกต.ไต้หวันจะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนแห่งประชาธิปไตยกับเช็กเกีย พร้อมทั้งเร่งกระตุ้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์และความร่วมมือที่ครอบคลุม ทั้งในด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุน เทคโนโลยี การป้องกันโรคระบาด การรักษาความปลอดภัยทางข้อมูล รวมถึงการศึกษาและวัฒนธรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายตาม “แผนปฏิบัติการด้านการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มประเทศในยุโรป” อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป