สภาบริหาร วันที่ 6 ม.ค. 65
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายซูเจินชาง นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วมการประชุมสภาบริหาร เพื่อรับฟังรายงาน “สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ปี 2022” จากคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ (National Development Council, NDC) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) โดยนรม. ซูฯ แสดงความคิดเห็นหลังจากที่ได้รับฟัง โดยระบุว่า ตลอดระยะเวลาปีกว่าที่ผ่านมา ภายใต้ความพยายามร่วมกันของทีมเจ้าหน้าที่สภาบริหารและสาธารณชนทั่วประเทศ นอกจากจะสามารถสกัดกั้นสถานการณ์โรคโควิด – 19 ไว้ได้แล้ว รัฐบาลยังสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการสรรค์สร้าง “ปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจ 2.0” โดยไต้หวันบังเกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านต่างๆ มากมาย ทั้งในด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศ การลงทุนและการบริโภค เป็นต้น แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายรอบด้าน อย่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ยังคงลุกลามไม่สิ้นสุด ราคาสินค้าที่ถีบตัวสูงขึ้น และข้อกำหนดด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในระดับนานาชาติ เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องรับมือกับปัญหาด้วยแนวทางที่เหมาะสมต่อไป โดยรัฐบาลนอกจากจะให้ความช่วยเหลือด้านการเปลี่ยนผ่านและยกระดับภาคอุตสาหกรรมแล้ว ยังจะเร่งสรรค์สร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ดี รวมถึงกระตุ้นแผนการลงทุนในไต้หวัน 3 รายการหลัก อีกทั้งยังจะมุ่งมั่นพยายามในการวางรากฐานทางเศรษฐกิจและการค้าหลากหลายรูปแบบ โดยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทีมเจ้าหน้าที่สภาบริหารเร่งดำเนินภารกิจเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีกว่าที่คาดหวังไว้ ทั้งนี้ เพื่อร่วมสร้างความผาสุกให้ประชาชน และส่งเสริมให้ไต้หวันมีบทบาทสำคัญในประชาคมโลกในอนาคตต่อไป
นรม.ซูฯ แถลงว่า ไต้หวันนอกจากจะสามารถสกัดกั้นสถานการณ์โรคโควิด – 19 ไว้ได้แล้ว รัฐบาลยังสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ก่อให้เกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ที่ดีตลอดทั้งปี 2021
นรม.ซูฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านการค้าระหว่างประเทศ ยอดส่งออกและยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน ปีที่แล้ว สามารถสร้างมูลค่ารวม 4 แสนล้านและ 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ ทุบสถิติใหม่ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังมีการขยายตัวในเชิงบวกติดต่อกัน 17 และ 21 เดือนตามลำดับ
นรม.ซูฯ ระบุว่า เมื่อช่วงที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้กล่าว “สุนทรพจน์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2022” โดยได้ประกาศนโยบายการพัฒนาประเทศ ปี 2022 รวม 4 ทิศทางหลัก ประกอบด้วย “มุ่งหน้าสู่ประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง” “รักษาศักยภาพด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ” “เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลไกในระบบสวัสดิการสังคม” และ “ธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยของประเทศ” นอกจากนี้ บนเส้นทางของการยื่นขอเข้าร่วม “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership, CPTPP) ปธน.ไช่ฯ ยังได้เรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมตัวให้พร้อมในด้านข้อกฎหมายและกลไกต่างๆ พร้อมนี้ รัฐบาลไต้หวันยังเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนเร่งขอเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิก CPTPP ตลอดจนเร่งวางแผนมาตรการที่ครอบคลุมเพื่อช่วยเหลือในส่วนที่เปราะบางของภาคอุตสาหกรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมไต้หวัน ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้ไต้หวันก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมีเสถียรภาพ