อุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ในอดีตถูกผู้คนต่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ วันนี้ได้พลิกโฉมเป็นกองหน้าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานสีเขียวแบบครบวงจร ทำให้อุดมการณ์รักษ์โลกจากจุดเริ่มต้นกลายมาเป็นจริง O’right ปวารณาตนที่จะยืนหยัดก้าวต่อไป ให้โลกรู้ว่าไต้หวันยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ด้านนวัตกรรมสีเขียวกับประเทศพัฒนาแล้ว
การยืนหยัดของ O’right ไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่สินค้าเท่านั้น ยังได้พัฒนาธุรกิจของตัวเองจนกลายเป็นธุรกิจสีเขียวระดับแนวหน้าทีเดียว ได้รับรางวัลที่ 1 “Taiwan Green Classics Award” จากกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน ถึง 2 ครั้ง ในปีค.ศ.2011 และ 2013 กลายเป็นบริษัท SME แห่งแรกในไต้หวันที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง “Taiwan’s Carbon Footprint Label” ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นยี่ห้อแรกของโลกที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง “PAS2060” นอกจากนี้ O’right ยังได้รับเกียรติให้แสดงความคิดเห็นในการประชุมระดับรัฐมนตรี APEC และการประชุมว่าด้วยรอยเท้าคาร์บอน (Carbon Footprint) ครั้งที่ 2 ของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไต้หวัน ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงพลังที่ปักรากฝังลึกลงไปของจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไต้หวันด้วย
เคล็ดลับสีเขียว ประหยัดพลังงานลดก๊าซคาร์บอน
เมื่อเดินเข้าไปในระเบียงสีเขียวของ O’right ก็จะเห็นความร่มรื่นจากต้นไม้เขียวปรากฏอยู่เต็มกำแพง ทำให้สายตารู้สึกเย็นสบายร่มรื่น อาศัยน้ำฝนและน้ำรีไซเคิลจากโรงงานมาหล่อเลี้ยงต้นไม้ใบหญ้าเหล่านี้ให้งามสะพรั่ง ดูดกลืนความร้อนระอุทุกตารางนิ้วออกไป กำแพงที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีแห่งนี้เป็นเครื่องกรองอากาศที่เป็นธรรมชาติที่สุด ให้พนักงานและลูกค้าถูกชะล้างให้สดชื่นด้วยพืชเขียวขจีเหล่านี้ ลดผลกระทบจากภาวะอากาศร้อนระอุแบบเกาะได้มากโขทีเดียว และก้าวสู่เป้าหมายแห่งการประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโถงของตัวอาคาร ด้านขวาจะเป็นสำนักงานที่ออกแบบเพื่อลดก๊าซคาร์บอน เครื่องปรับอากาศไม่ได้เปิดใช้งาน แต่อากาศภายในเย็นสบาย ความรู้สึกร้อนที่ผิวหนังก็ลดลงอย่างรวดเร็ว กำแพงที่สะท้อนเข้าสู่สายตา ก็คือคอนกรีตผิวเรียบปูนเปลือย สีเทาแฝงไว้ด้วยความหนักแน่น ลดความร้อนในอารมณ์ของผู้คนลงได้มากทีเดียว ห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสไม่มีฉากกั้นบนพื้นที่ 300 ผิง (1 ผิง = 3.3 ตร.ม.) สูง 3.8 เมตร อากาศไหลเวียนอย่างเป็นธรรมชาติไปตามเสาและขื่อคานของอาคาร ประดับด้วยพัดลมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ติดบนเพดานอย่างลงตัว ใบพัดหมุนไปอย่างเชื่องช้าเงียบๆ 3 ด้านเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ถึงพื้น มีลมเย็นพัดเอื่อยๆ เข้ามาเป็นระยะๆ ม่านหน้าต่างสีดำที่แขวนไว้สำหรับกันแสง ประสานเป็นหนึ่งเดียวกับต้นไม้สูงใหญ่เขียวขจีที่อยู่นอกอาคาร เสมือนเสกคาถาสกัดกั้นคลื่นความร้อนที่กำลังแผ่กระจายออกมา ที่นี่ก็คือสำนักงานใหญ่ของบริษัท O’right ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตหลงถาน นครเถาหยวน เจ้าของรางวัล “สิ่งปลูกสร้างสีเขียวยอดเยี่ยม” จากกระทรวงมหาดไทยไต้หวัน
ผลิตไฟฟ้าพลังงานสีเขียว ลดปล่อยก๊าซคาร์บอน
อาคารหลังนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างนาน 2 ปี ด้วยงบกว่า 200 ล้านเหรียญไต้หวัน แล้วเสร็จเริ่มเปิดใช้งานในวันสิ่งแวดล้อมโลก เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ค.ศ.2012 เป็นโรงงานเครื่องสำอาง GMP แห่งแรกในเอเชียที่ได้มาตรฐานอาคารสีเขียว ลงทุนด้วยความกล้าหาญภายใต้แนวความคิด “การอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างคน สิ่งปลูกสร้าง และสิ่งแวดล้อม” ณ ที่นี่ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมิใช่เป็นเพียงแค่คำขวัญ แต่ต้องลงมือทำให้เป็นจริง
เริ่มตั้งแต่การเลือกสถานที่ คุณเก่อวั่งผิง (葛望平) ประธาน O’right ยืนหยัดในความคิดของตัวเอง อาศัยสภาพภูมิประเทศที่ลุ่มๆ ดอนๆ ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยโดยรอบของโรงงานต่ำกว่าอุณหภูมิบนพื้นที่ราบ 2°C “ผมอยากให้สิ่งปลูกสร้างที่จะสร้างงอกออกมาจากพื้นดิน กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ” และเมื่อโรงงานสร้างเสร็จ นอกจากนำเอาต้นไม้กลับมาปลูกไว้ที่เดิมเพื่อให้เป็นที่อยู่ของเหล่าวิหคทั้งหลายแล้ว ยังได้ปลูกไม้ยืนต้นขนาดใหญ่นานาชนิด ทั้งต้นเมเปิล ต้นการบูร และต้นไซเปรสล้าน เป็นต้น ห้อมล้อมกำแพงหนากว่า 40 ซม. ทำให้ความร้อนยากที่จะทะลุผ่านกำแพงเข้ามา และเมื่อคำนวณมุมของชายคาขนาดใหญ่ ก็ยิ่งลดเวลาที่กำแพงจะถูกแดดแผดเผาให้สั้นลง ส่วนไม้พุ่มอย่างต้นแก้วและกุหลาบพันปี ก็เติบใหญ่ร่มรื่นมาช้านานและยังปลูกพืชพวกเถาวัลย์ไว้ที่ชั้นล่างของอาคารเป็นจำนวนมาก วิธีการป้องกันความร้อนเหล่านี้ทำให้อุณหภูมิในห้องพอเหมาะ หน้าหนาวจะอุ่น ส่วนหน้าร้อนก็จะเย็นสบาย
ในหน้าร้อน จะมีฉากกั้นความร้อนเป็นชั้นๆ เครื่องปรับอากาศที่นี่ก็เปรียบเสมือนเป็นเพียงเครื่องประดับตกแต่งอาคารเท่านั้น มันจะทำงานก็ต่อเมื่ออุณหภูมิภายในห้องสูงกว่า 26°C เมื่อระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะในตัวอาคารสำนักงานตรวจจับปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่า 800 ppm อุปกรณ์ระบายความร้อน (Total Heat Exchanging System) ที่ติดตั้งอยู่บนเพดานก็จะทำงานโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ ตลอดปีค.ศ.2016 เครื่องปรับอากาศที่นี่เปิดใช้เพียง 216 ชม. หรือเท่ากับ 27 วันเท่านั้น “เฉลี่ยแล้วที่นี่เราไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศปีละถึง 300 วัน” ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจในผลสำเร็จของการประหยัดพลังงานในปีค.ศ.2016 ของ O’right
อย่างเช่นแผงโซลาร์เซลล์รูปร่มขนาดใหญ่ คลุมดาดฟ้าทั้งหมดของตัวอาคาร แสงแดดจ้าทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ เมื่อมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดมา ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นรูปช่องลมทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากพลังงานลมรับหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าต่อ ทำให้ไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานสีเขียวมีตลอดทั้งปี นอกจากจะพอใช้ในโรงงานแล้ว ยังมีเหลือพอที่จะนำไปขายได้อีกด้วย
เดินไปถูกทาง แม้แต่พระเจ้าก็ยังสงสารช่วยเหลือ
คุณเก่อวั่งผิงเกิดที่เขตฟ่งซาน นครเกาสง เมื่อย้อนนึกไปถึงเรื่องราวในอดีตที่ต้องเผชิญกับสิ่งท้าทายจากการประกอบธุรกิจ “พ่อของผมเป็นทหารเก่า” คุณเก่อวั่งผิงเริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่เกิด ครอบครัวของเขาต้องแบกรับภาระหนี้สิน ในห้องรับแขกจะกองเต็มไปด้วยสินค้าแปรรูปที่ทำไม่หมด สมาชิกในครอบครัวต้องช่วยกันทำเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว
“คุณพ่อเอาเงินที่เตรียมไว้ซื้อโลงศพให้ตัวเองมอบให้ผมไปลงทุนประกอบธุรกิจ” ในปีค.ศ.2002 คุณเก่อวั่งผิงกำเงินที่คุณพ่อคุณแม่เก็บสะสมมาชั่วชีวิต ตื้นตันใจจนบอกไม่ถูก เขาเรียนมาทางด้านเครื่องกล แต่เพราะรักสวยรักงาม และอยากสร้างสิ่งสวยงามให้เกิดขึ้น “เราเริ่มต้นจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามตกแต่งทรงผมจากต่างประเทศ” วัยรุ่นที่ขาดประสบการณ์เหล่านี้ต้องล้มลุกคลุกคลานท่ามกลางการแข่งขันในตลาดอย่างดุเดือด เรียกได้ว่าเกือบหมดเนื้อหมดตัวทีเดียว
ในช่วงเวลานี้ได้เกิดเหตุ “เคราะห์ซ้ำกรรมซัด” บิดามารดาเสียชีวิตไล่เลี่ยกันในเวลาเพียงครึ่งปี ส่วนเพื่อนร่วมงานที่ร่วมก่อตั้งบริษัทกันมาก็มีแนวความคิดไม่ลงรอยกัน ทยอยถอนตัวออกไป คุณเก่อวั่งผิงซึ่งมีโรคภูมิแพ้อย่างรุนแรงเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้วเกือบทรุดไปเลยเหมือนกัน แต่ก็ทำใจได้ ยอมรับประสบการณ์ในอดีตอันแสนเจ็บปวด จนกระทั่งในปีค.ศ.2006 คุณเก่อวั่งผิงจึงได้ตัดสินใจที่จะก้าวสู่หนทางแห่งตลาดแฟชั่นที่ไม่เหมือนใคร ปวารณาตัวที่จะให้ความช่วยเหลือผู้คนห่างไกลอันตรายจากมลพิษโลหะหนักและสารเคมีต่างๆ พัฒนามุ่งสู่ “ออร์แกนิกสีเขียว”
นวัตกรรมสีเขียวทุกมิติ
“โอกาส สถานที่ และมนุษยสัมพันธ์ที่ประจวบเหมาะทำให้พวกเราประสบความสำเร็จ” เมื่อความคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกลายเป็นกระแสโลก O’right ยืนหยัดในอุดมการณ์ตั้งแต่เริ่มแรกของตน “ธรรมชาติ บริสุทธิ์ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” กลายเป็นผู้นำสีเขียว “ส่วนตัวผมเองเป็นโรคภูมิแพ้ มีปฏิกิริยารุนแรงต่อสารเคมี” “เราทราบดีว่าลูกค้าต้องการแชมพูสระผมแบบไหน แต่สายธารน้ำต้องการแชมพูแบบไหน?” แนวความคิดที่ต้องการให้ผู้บริโภคใช้ด้วยความสบายใจ และไม่ทำร้ายโลกใบนี้ กระตุ้นให้ O’right ใช้วัตถุดิบธรรมชาติที่สามารถสลายตัวได้เองและไร้สารพิษกับผลิตภัณฑ์ของตน
“จากที่ไม่มีอะไรเลยพัฒนามาจนถึงวันนี้ เราเองต้องใช้เวลาในการคลำหาทางมาตลอด” เมื่อผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมไต้หวัน (Taiwan Excellence Award) ทำให้ O’right เดินสู่ก้าวที่สอง นั่นคือ “การใช้วัสดุหีบห่อได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์สีเขียว” ตั้งแต่ตัวขวดจนถึงฝาขวดที่ทำจากไม้ไผ่ แม้แต่หัวกดก็ใช้วัสดุไร้สารพิษอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สลายตัวได้ด้วยตัวเอง ไม่เพียงแต่กล่องกระดาษเท่านั้น ยังสั่งทำฉลากปิดกล่องจากวัสดุอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย ส่วนถุงลมกันกระแทกก็ “บางสุดๆ” ทั้งหมดทำจากวัสดุรีไซเคิล ส่วนชั้นวางผลิตภัณฑ์ก็ทำจากฝาขวดพลาสติกรีไซเคิลทั้งหมด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างได้ผล กระบวนการผลิตสีเขียวทั้งหมดทำให้ผลิตภัณฑ์ของ O’right ได้รับเครื่องหมายรับรองรอยเท้าคาร์บอนในปีค.ศ.2016
เห็นคุณค่าทรัพยากรน้ำ ทุกหยดมีความหมาย
เพื่อมิให้เป็นการทำลายความสมดุลของระดับน้ำใต้ดิน O’right จึงนำเอาน้ำประปามาผ่านขั้นตอนการกรองสารพิษถึง 8 ขั้นตอน กลายเป็นน้ำบริสุทธิ์ นอกจากนำมาใช้ในสายการผลิตแล้ว ยังเป็นน้ำดื่มสำหรับพนักงานและแขกผู้มาเยือนบริษัทด้วย “ผมดื่มน้ำนี้ทุกวันเลยครับ” คุณเก่อวั่งผิงหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นมาพร้อมกับบอกกับพวกเรา
กระบวนการผลิตน้ำบริสุทธิ์ แน่นอนว่าขณะกรองน้ำจะปลดปล่อยแร่ธาตุอันอุดมสมบูรณ์ออกมาด้วย แต่ไม่ปล่อยให้น้ำไหลทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ อาศัยระบบท่อส่งน้ำเก็บรวบรวมน้ำไว้ใช้ทำความสะอาดชะล้าง อาบน้ำ และยังเอามารดต้นไม้ได้อีกด้วย
แม้จะเป็นน้ำเสียที่มาจากกระบวนการผลิต ผ่านระบบขั้นตอนรีไซเคิล อาทิ ระบบกักเก็บ ไฮโดรไลติกออกซิเดชัน และตกตะกอน แล้วเอาไปเก็บรวบรวมไว้ในบ่อชีวภาพที่มีระบบปรับอุณหภูมิของน้ำ ส่วนพืชน้ำในบ่อจะดึงดูดให้สิ่งมีชีวิตมารวมตัวกันที่นี่ เสียงแมลงเสียงกบในยามค่ำคืนดังไม่ขาดสาย
ใช้ความตั้งใจในรายละเอียด ย่อมต้องเห็นผลได้อย่างชัดเจน “ก๊อกน้ำของพวกเราใช้ขากดบังคับการเปิด-ปิดของน้ำ” เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องใช้ไฟ แถมยังประหยัดน้ำได้อีกด้วย”
โยนหินถามทาง เพื่อปลุกสำนึกผู้คน
“ความจริงหน้าที่สำคัญที่สุดของพวกเราในตอนนี้ ก็คือการเผยแพร่แนวความคิดรักษ์โลกนี้ออกไป” และเพื่อประชาสัมพันธ์การประหยัดพลังงาน ลดก๊าซคาร์บอน O’right จึงจัดกิจกรรม Earth Hour ปิดไฟเป็นเวลา 1 ชม.ติดต่อกัน 8 ปี ซึ่งปีนี้มีบริษัทห้างร้านถึง 500 กว่าแห่งขานรับเข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วย ก็เสมือนโยนหินลงไปกลางแม่น้ำ จนเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นอย่างต่อเนื่อง
O’right ยังจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดชายหาด ระดมพนักงานของบริษัทและครอบครัวซัพพลายเออร์และลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน “8 ปีที่ผ่านมา เราร่วมรับผิดชอบปลูกต้นไม้มากถึง 2,660 ต้น” O’right ใช้ปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ เช่นเดียวกับแนวคิดที่ได้จากผลิตภัณฑ์ “ต้นไม้ในขวด” ที่คว้ารางวัลทั้งในและต่างประเทศ “เราหวังว่าผู้บริโภคทุกคนจะเสมือนเมล็ดพันธุ์เมล็ดหนึ่ง แต่เมื่อมารวมตัวกัน มันก็จะกลายเป็นป่าไม้อันร่มรื่น”