ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไช่ฯ กล่าวปราศรัยใน “งานเลี้ยงฉลองตรุษจีนของกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ทั่วประเทศ” ผ่านการบันทึกวีดิทัศน์ล่วงหน้า
2022-02-11
New Southbound Policy。ปธน.ไช่ฯ กล่าวปราศรัยใน “งานเลี้ยงฉลองตรุษจีนของกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ทั่วประเทศ” ผ่านการบันทึกวีดิทัศน์ล่วงหน้า (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ปธน.ไช่ฯ กล่าวปราศรัยใน “งานเลี้ยงฉลองตรุษจีนของกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ทั่วประเทศ” ผ่านการบันทึกวีดิทัศน์ล่วงหน้า (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 10 ก.พ. 65
 
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้กล่าวปราศรัยใน “งานเลี้ยงฉลองตรุษจีนของกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ทั่วประเทศ” ผ่านการบันทึกวีดิทัศน์ล่วงหน้า โดยระบุว่า ความท้าทายจากการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และแนวโน้มแห่งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ทำให้รัฐบาลไต้หวันจะเร่งผลักดัน “ยุทธศาสตร์ 6 อุตสาหกรรมหลัก” โดยจะอนุมัติเงินอุดหนุนในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs โดยปธน.ไช่ฯ ได้เรียกร้องให้เหล่าผู้ประกอบการร่วมมือกับรัฐบาล ในการยกระดับศักยภาพของธุรกิจ SMEs ผ่านการจัดตั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่มีความแข็งแกร่งและยืดหยุ่น เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของไต้หวันต่อไป
 
คำปราศรัยของปธน.ไช่ฯ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ :

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด แต่ไต้หวันกลับบังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เด่นชัดในคลื่นกระแสแห่งความท้าทายในครั้งนี้ โดยเฉพาะการส่งออกของพวกเรา ที่มีการขยายตัวติดต่อกันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 18 เดือน ในขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปีที่แล้ว ก็อยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 6 ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา
 
การที่พวกเรามีผลสัมฤทธิ์ที่เด่นชัดเช่นนี้ เป็นผลอันเนื่องมาจากการประสานความร่วมมือของประชาชนในประเทศ และความมุ่งมั่นพยายามของเหล่าผู้นำในธุรกิจ SMEs ที่มาร่วมงานเในวันนี้
 
ธุรกิจ SMEs เป็นเสาหลักสำคัญที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจของไต้หวัน หลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้วางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการยกระดับอุตสาหกรรม ผ่าน “โครงการอุตสาหกรรมนวัตกรรม 5+2” และ “โครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานแห่งอนาคต” กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ของไต้หวันกล้าเสี่ยงและกล้าพุ่งชนเป้าหมาย มีความยืดหยุ่นสูง เมื่อเผชิญหน้ากับการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ประกอบกับแนวโน้มแห่งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ทำให้รัฐบาลไต้หวันจะเร่งผลักดัน “ยุทธศาสตร์ 6 อุตสาหกรรมหลัก” โดยจะอนุมัติเงินอุดหนุนในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และก้าวไปสู่เป้าหมายการลดคาร์บอนตามหลักการพลังงานสีเขียว
 
ท้ายนี้ ขอขอบคุณ “สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งชาติไต้หวัน” ที่ร่วมให้การสนับสนุนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล และขออวยพรให้ทุกท่านโชคดีมีชัยตลอดปีขาลนี้ ขอบคุณทุกท่าน