สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง วันที่ 29 มี.ค. 65
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสาขาภาคเหนือ หน่วยบริการประจำนครเถาหยวน ได้จัดหลักสูตรการศึกษาภาคครัวเรือนและการประชาสัมพันธ์กฎหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ โดยได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสายด่วนให้บริการปรึกษาสำหรับชาวต่างชาติในไต้หวัน ที่ได้เปลี่ยนเป็นเบอร์ 1990 ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้เชิญนางหนิวชุนหรู ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวจีน มาเป็นผู้บรรยายและแบ่งปันข้อคิดที่ได้จากการเดินทางมาใช้ชีวิตในไต้หวัน เพื่อชี้แนวทางให้แก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวจีนและสมาชิกในครอบครัว ทั้งนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในการปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตในไต้หวันได้อย่างราบรื่น
หน่วยบริการ สตม.ประจำนครเถาหยวน แถลงว่า “สายด่วนบริการให้คำปรึกษาสำหรับชาวต่างชาติในไต้หวัน 0800-024111” ได้เปลี่ยนหมายเลขเป็นเบอร์ “1990”แล้วในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและการใช้บริการ โดยสตม.จะเปิดใช้สายด่วน 2 หมายเลขข้างต้นนี้ไปจนถึงปลายเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้เป็นต้นไป จะเหลือไว้เฉพาะสายด่วน “1990 ให้ความช่วยเหลือทันท่วงที” นอกจากนี้ สายด่วนข้างต้น จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการด้วยภาษาต่างประเทศรวม 7 ภาษา ประกอบด้วยภาษาจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทยและกัมพูชา โดยรายละเอียดการให้บริการจะครอบคลุมในด้านต่างๆ ที่นอกเหนือจากปัญหาในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย กฎระเบียบว่าด้วยการพำนักในไต้หวัน การเข้า – ออกประเทศ การให้ความช่วยเหลือด้านการแปลภาษา สวัสดิการทางสังคม การแพทย์สาธารณสุข การจัดเก็บภาษีและการคมนาคม เป็นต้น และเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 รวมถึงช่วยแบ่งเบาภาระของสายด่วน 1922ยังได้เสริมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวข้องกับการเดินทางเข้า – ออกประเทศอีกด้วย
โดยหลักสูตรในครั้งนี้ได้เชิญนางหนิวชุนหรู ประธานสมาคมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ นครเถาหยวน มาทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายในหลักสูตรการศึกษาภาคครัวเรือน โดยนางหนิวฯ สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการแพทย์ Baotou Medical College ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน และด้วยพรหมลิขิตที่ทำให้เธอได้รู้จักกับสามีชาวไต้หวัน ซึ่งทั้งสองได้แต่งงานและย้ายมาพำนักในไต้หวันในปี 2000 โดยในช่วงแรก เธอก็ประสบกับปัญหาการปรับตัว ได้เพียงอาศัยการปรับเปลี่ยนแนวคิด และผลักดันให้ตนเองพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก้าวออกสู่สังคมด้วยการเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร เรียนรู้จากการให้บริการ และให้บริการด้วยสิ่งที่เรียนรู้มา ซึ่งทำให้เธอสามารถปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตในไต้หวันได้ในเวลาต่อมา หลังจากนั้น นางหนิวฯ ก็ได้ทุ่มเทในภารกิจการส่งมอบความห่วงใยและช่วยเหลือผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มาเป็นเวลานาน และเพื่อส่งเสริมให้พี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ร่วมจัดตั้งจุดให้บริการในเขตผิงเจิ้นในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น นางหนิวฯ จึงได้ให้กำลังใจทุกคนว่า เริ่มแรกที่มาพำนักในไต้หวันอาจรู้สึกลำบาก แต่จะไม่ตลอดไป ซึ่งพวกเราสามารถพลิกผันชีวิตได้จากการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
