กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 31 มี.ค. 65
การประชุมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไต้หวัน - ปารากวัย ครั้งที่ 21 เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ณ กรุงไทเป โดยนางหวังเหม่ยฮัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และ Mr. Luis Alberto Castiglioni รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สาธารณรัฐปารากวัย ทำหน้าที่เป็นประธานร่วมในการประชุมครั้งนี้ โดยกลไกการประชุมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไต้หวัน – ปารากวัย ได้ถูกจัดขึ้นในปี 1971 เป็นต้นมาตราบจนปัจจุบัน ถือเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจและการค้าที่สำคัญระหว่างสองประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันถึงประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจและการค้า
รมว.หวังฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ปารากวัยเป็นประเทศพันธมิตรของไต้หวันที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอเมริกาใต้ โดยไต้หวันได้ผลักดันโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคี ผ่านการประชุมระหว่างไต้หวัน - ปารากวัยมาเป็นเวลายาวนาน ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ยังไม่จบสิ้น การประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไต้หวัน - ปารากวัย ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เปี่ยมด้วยนัยยะที่พิเศษยิ่ง พร้อมนี้ รมว.หวังฯ ยังได้เน้นย้ำว่า การบ่มเพาะบุคลาการด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ มีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมของปารากวัยพัฒนาไปได้อย่างรุดหน้ามากขึ้น นอกจากนี้ ปารากวัยยังอุดมไปด้วยทรัพยากรพลังงานน้ำและพลังงานไฟฟ้า โดยไต้หวันจะร่วมหารือแนวทางการประสานความร่วมมือในด้านนี้กับปารากวัยในเชิงลึกต่อไป สำหรับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – ปารากวัย มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจากรายงานการสำรวจในปี 2021 ระบุว่า ไต้หวันเป็นตลาดส่งออกเนื้อวัวที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของปารากวัย ซึ่งยอดการส่งออกมีมูลค่าสูงถึง 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอุตสาหกรรมการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปที่มีศักยภาพ และผลผลิตทางการเกษตรและปศุสัตว์ที่มีความหลากหลายของปารากวัย และการพัฒนาอุตสาหกรรมของไต้หวัน มีข้อได้เปรียบที่สามารถเกื้อหนุนซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว
รมว. Castiglioni กล่าวขณะปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมว่า การประชุมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไต้หวัน – ปารากวัยในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 21 แล้ว พร้อมระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดที่ยังคงรุนแรงในปัจจุบัน คาดหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายร่วมเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขอบคุณไต้หวันที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพของสองประเทศ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนานโยบายทางอุตสาหกรรมของปารากวัย ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – ปารากวัยให้เป็นไปในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น
โดยผลสัมฤทธิ์ของการประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย การลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) 2 รายการ ได้แก่ MOU ด้านการบ่มเพาะบุคลากรและเสริมสร้างเทคโนโลยีการตรวจหาเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) และ MOU ว่าด้วยการประชาสัมพันธ์ด้านการลงทุนและการส่งออก รวมถึงหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยการประสานความร่วมมือด้านนโยบายทางอุตสาหกรรม (LOI) โดยไต้หวันจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านการตรวจสอบและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ ASF ตามแนวชายแดน พร้อมทั้งจัดตั้งกลไกการตรวจคัดกรองอย่างรัดกุม นอกจากนี้ ยังจะเร่งผลักดันความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านการสำรวจสถานการณ์ล่าสุดทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของปารากวัย เพื่อเสนอแนะทิศทางและให้คำชี้แนะด้านนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมขั้นสูงของปารากวัยต่อไป