กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันที่ 19 เม.ย. 65
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. สภานิติบัญญัติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้พิจารณาผ่านร่างกฎหมายว่าด้วย “การจัดตั้งสถานีอวกาศแห่งชาติ” โดยศูนย์อวกาศแห่งชาติไต้หวัน (National Space Organization, NSPO) ซึ่งเดิมเป็นหน่วยงานในใต้สังกัดสถาบันวิจัยประยุกต์แห่งชาติไต้หวัน (National Applied Research Laboratories, NARLabs) จะถูกเปลี่ยนมาเป็นสถานีอวกาศแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ โดยจะมีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือการดำเนินงานด้านอวกาศ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (MOST) ที่นับวันยิ่งมีการพัฒนาที่รุดหน้ามากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติงานภายใต้อำนาจรัฐ ตลอดจนบูรณาการทรัพยากรจากทุกแวดวงเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งภาครัฐ ภาตอุตสาหกรรม ภาควิชาการและการวิจัย ทั้งนี้ เพื่อร่วมผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต่อไป
“กฎหมายว่าด้วยการพัฒนาด้านอวกาศ” ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. ปี 2022 เป็นต้นมา โดย MOST ได้จัดตั้งองค์กรนิติบุคคล เพื่อผลักดันกิจการและภารกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านอวกาศที่เปี่ยมด้วยความชำนาญ ตามบทบัญญัติของกฎหมายฉบับข้างต้น เมื่อพิจารณาถึงศูนย์ NSPO ที่แบกรับหน้าที่การพัฒนาเทคโนโลยีด้านอวกาศของไต้หวันมาเป็นเวลาเนิ่นนาน โดยทางศูนย์ฯ ได้บรรลุภาระหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มาโดยตลอด ทาง MOST จึงวางแผนปรับเปลี่ยนโครงสร้างของศูนย์ NSPO ไปสู่การเป็นองค์กรอิสระ โดย MOST ได้ยื่นเสนอร่างกฏหมายว่าด้วยการจัดตั้งสถานีอวกาศแห่งชาติ ต่อสภานิติบัญญัติ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ ได้ผ่านกระบวนการทางกฎหมายทุกขั้นตอนอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยเมื่อวันที่ 19 เม.ย. สภานิติบัญญัติไต้หวันได้ลงมติผ่านร่างกฏหมายฉบับข้างต้น ทั้ง 3 วาระแล้ว
ตามบทบัญญัติของร่างกฎหมายว่าด้วยจัดตั้งสถานีอวกาศแห่งชาติ ในอนาคต สถานี NSPO จะต้องแบกรับหน้าที่ในการร่างและดำเนินการตามโครงการอวกาศแห่งชาติ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยี ตลอดจนมุ่งมั่นในการประยุกต์ใช้ให้เกิดคุณค่าเพิ่ม รวมไปถึงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีอวกาศระดับนานาชาติ ให้ความช่วยเหลือผลักดันอุตสาหกรรมอวกาศ รวมถึงให้คำชี้แนะในการยกระดับทางเทคโนโลยี ดำเนินการวิจัยระบบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการด้านอวกาศ จัดตั้งท่าอวกาศยานและกิจการที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งกลไกการตรวจจับสัญญาณการเข้าสู่วงโคจรของยานขนส่งอวกาศ และการพิจารณาใบอนุญาตปล่อยยานขนส่งขึ้นสู่วงโคจร รวมไปถึงบ่มเพาะบุคลากรด้านเทคโนโลยีอวกาศ ตลอดจนผลักดันความรู้ทางวิทยาศาสตร์ด้านอวกาศให้เป็นที่แพร่หลาย และผลักดันให้องค์กรเอกชนเข้าร่วมในภารกิจที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
การบังคับใช้ “กฎหมายว่าด้วยการพัฒนาด้านอวกาศ” เป็นการวางรากฐานทางกฎหมายที่สำคัญในการพัฒนาด้านอวกาศระดับชาติต่อไปในอนาคต โดยสามารถเป็นหลักฐานอ้างอิงทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางให้องค์กรภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้แวดวงอุตสาหกรรม วิชาการและการวิจัย ดำเนินการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอันล้ำสมัยต่อไป เพื่อเร่งให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศที่รุดหน้ามากยิ่งขึ้น โดยหลังจากที่ศูนย์ NSPO ได้เปลี่ยนผ่านสู่การเป็นองค์กรอิสระแล้ว ยังคงมีหน้าที่สืบสานโครงการด้านอวกาศและกิจการที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีหน้าที่ในการช่วยผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศและการบ่มเพาะบุคลากร ซึ่งจะสามารถช่วยยกระดับศักยภาพทางการแข่งขันของไต้หวันในด้านเทคโนโลยีอวกาศระดับนานาชาติได้อีกด้วย