ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กต.ไต้หวันส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครน ระลอกที่ 4 โดยรมว.กต.ไต้หวันได้ร่วมพูดคุยกับนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมประกาศมอบเงินบริจาครวม 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้ยูเครน เพื่อแสดงถึงการร่วมทุกข์ร่วมสุขระหว่างภาคประชาชนไต้หวัน - ยูเครน
2022-04-25
New Southbound Policy。กต.ไต้หวันส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครน ระลอกที่ 4 โดยรมว.กต.ไต้หวันได้ร่วมพูดคุยกับนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมประกาศมอบเงินบริจาครวม 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้ยูเครน เพื่อแสดงถึงการร่วมทุกข์ร่วมสุขระหว่างภาคประชาชนไต้หวัน - ยูเครน (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
กต.ไต้หวันส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครน ระลอกที่ 4 โดยรมว.กต.ไต้หวันได้ร่วมพูดคุยกับนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมประกาศมอบเงินบริจาครวม 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้ยูเครน เพื่อแสดงถึงการร่วมทุกข์ร่วมสุขระหว่างภาคประชาชนไต้หวัน - ยูเครน (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 22 เม.ย. 65
 
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ร่วมพูดคุยหารือผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับนายวิตาลี คลิตช์โก (Vitali Klitschko) นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟของยูเครน ซึ่งรมว.อู๋ฯ ได้ส่งผ่านความห่วงใยของประชาชนชาวไต้หวันที่มีต่อสถานการณ์วิกฤตในยูเครนและประชาชนชาวยูเครนที่ล้วนได้รับผลกระทบจากสงครามในครั้งนี้ พร้อมนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้ประกาศมอบเงินบริจาคของประชาชนชาวไต้หวันรวม 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กรุงเคียฟ พร้อมจัดสรรเงินอุดหนุนจำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับสถานพยาบาลรวม 6 แห่งในยูเครน รวมยอดเงินบริจาคในครั้งนี้ คิดเป็นจำนวนเงิน 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รมว.อู๋ฯ ยังย้ำว่า ไต้หวันขอส่งมอบความช่วยเหลือให้กับประชาชนชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามในครั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นจากสงคราม
 
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้ยกกำลังเข้ารุกรานยูเครน ซึ่งนอกจากจะสร้างความสูญเสียให้แก่ประชาชนแล้ว ยังเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศและสังคมประชาธิปไตย โดยไต้หวันและยูเครนเป็นพันธมิตรด้านประชาธิปไตยที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน และเป็นประเทศที่ตั้งอยู่แนวหน้าในการรับมือกับประเทศเผด็จการเช่นกัน ไต้หวันจึงยินดีและพร้อมที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุข โดยให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และยืนเคียงข้างประชาชนชาวยูเครน
 
นับตั้งแต่การสู้รบระหว่างรัสเซีย - ยูเครนปะทุขึ้น ไต้หวันก็ได้ยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนอย่างเป็นรูปธรรมในทันที ซึ่งนอกจากจะส่งมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น รวมน้ำหนัก 27 ตัน ให้กับคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (Governmental Strategic Reserves Agency, RARS) ของรัฐบาลโปแลนด์ เพื่อนำไปส่งมอบต่อให้กับรัฐบาลและประชาชนชาวยูเครนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลไต้หวันยังได้จัดส่งสิ่งของจำเป็นที่ประชาชนชาวไต้หวันร่วมบริจาคเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครน รวมน้ำหนักกว่า 650 ตัน โดยส่งผ่านไปทางสโลวักและโปแลนด์ด้วย
 
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)  ยังได้มอบหมายให้มูลนิธิบรรเทาภัยพิบัติ (Relieve Disaster Foundation) จัดเปิดบัญชีสำหรับให้ความช่วยเหลือในวิกฤตยูเครน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากประชาชน ทำให้ สามารถรวบรวมเงินบริจาคได้มากกว่า 940 ล้านเหรียญไต้หวัน หรือเทียบเท่ากับ 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งนอกจากการบริจาคให้กรุงเคียฟและสถานพยาบาลในยูเครนแล้ว รัฐบาลไต้หวันยังได้ทยอยส่งมอบเงินบริจาค รวม 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบของยูเครน ได้แก่ โปแลนด์ เช็กเกีย สโลวัก ฮังการีและ 3 ประเทศที่ตั้งอยู่ในแถบคาบสมุทรบอลติก ทั้งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มประเทศที่เปิดรับผู้ลี้ภัยยูเครนเข้าลี้ภัยในพื้นที่นั้นๆ
 
โดยนายกเทศมนตรี Klitschko ชี้ว่า การบุกโจมตียูเครนของรัสเซียในครั้งนี้เป็นพฤติกรรมการก่อสงคราม มิใช่เพียง “แผนปฏิบัติการทางกองกำลังทหารพิเศษ” โดยในช่วงที่ผ่านมา นอกจากทหารรัสเซียจะสาดกระสุนใส่เจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพยูเครนแล้ว ยังสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างไร้ความปราณี ซึ่งรวมไปถึงเด็กเล็กและสตรีที่ไม่มีทางสู้ โดยนายกฯ Klitschko เชื่อว่า การที่ยูเครนผนึกกำลังในการต่อกรกับรัสเซีย นอกจากจะเกี่ยวพันถึงสันติภาพในระดับภูมิภาคและระดับโลกแล้ว ยังเป็นการต่อสู้เพื่อปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพของโลกให้คงอยู่ต่อไป ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลยูเครนจึงขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมประณามและดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย มีเพียงการถอนทหารของรัสเซียออกจากยูเครนเท่านั้น จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของสันติภาพอย่างแท้จริง นายกฯ Klitschko ย้ำอีกว่า ยูเครนยึดมั่นในเสรีภาพและสันติภาพเสมอมา พร้อมร่วมปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพ สิทธิมนุษยชนไปพร้อมกับพันธมิตรด้านประชาธิปไตยทั่วโลก โดยพวกเรายินยอมที่จะสละชีวิตเพื่อปกป้องค่านิยมสากล ดีกว่ายอมจำนนต่ออำนาจเผด็จการ ในตอนท้าย นายกฯ Klitschko ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลและประชาชนยูเครน ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวันที่ให้การสนับสนุนอย่างอบอุ่น โดยยูเครนจะจดจำน้ำใจและความห่วงใยที่ประชาชนไต้หวันมอบให้ไว้ในใจตลอดไป
 
รมว.อู๋ฯ ยืนยันว่า รัฐบาลและประชาชนไต้หวันต่างก็เผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่รุนแรงจากประเทศเผด็จการที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน จึงมีความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจต่อประชาชนยูเครนอย่างลึกซึ้ง โดยชาวไต้หวันต่างยินดีที่ได้ร่วมบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็น เพื่อเป็นการให้การสนับสนุนแก่ยูเครนอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้ยกย่องชื่นชมการต่อสู้ของนายกฯ Klitschko ซึ่งอดีตเคยเป็นนักมวยสากลอาชีพ ที่ได้สู้ยิบตาในระหว่างช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความประทับใจและเปิดโลกทัศน์ให้กับประชาชนไต้หวัน โดยนายกฯ Klitschko หวังว่าการสู้รบในครั้งนี้จะสงบลงในเร็ววัน และหลังจากที่สงครามยุติลง นายกฯ Klitschko จะติดต่อเชิญรมว.อู๋ฯ ให้เดินทางเยือนกรุงเคียฟ พร้อมยินดีที่จะให้การต้อนรับและชี้แจงเกี่ยวกับแผนการบูรณะฟื้นฟูในภายภาคหน้าต่อไป