กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 18 พ.ค.65
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Friederike Böge ผู้สื่อข่าวของ Frankfurter Allgemeine Zeitung จากเยอรมนีประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออก โดยได้กล่าวถึงข้อคิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน-เยอรมนี และความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน-ลิทัวเนีย
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า การที่ชาวยูเครนร่วมแรงร่วมใจต่อต้านการรุกรานจากภายนอก ทำให้ชาวไต้หวันรู้สึกได้เป็นอย่างดีว่า การจะต่อสู้กับภัยคุกคามทางทหารจากจีน ประชาชนทุกคนมีหน้าที่จะต้องร่วมกันลุกขึ้นต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเอง ในขณะเดียวกัน ไต้หวันก็จะขอรับความสนับสนุนจากสหรัฐฯ ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลและได้รับอาวุธที่จำเป็นในการป้องกันตัวเอง เพื่อยกระดับสมรรถนะในการทำสงครามที่ไม่สมดุลระหว่างกัน
ไต้หวันและ NATO มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่ามีโอกาสไม่น้อยที่จะได้สร้างความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีประเทศในยุโรปได้แสดงความห่วงใยต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ไต้หวันมีโอกาสได้รับความสนับสนุนจากนานาชาติมากขึ้น
ในช่วงหลายปีมานี้ พฤติกรรมคุกคามของจีนในหลายพื้นที่ นอกจากจะไม่สามารถทำให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยยอมแพ้ แต่กลับทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับยุโรปมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น เช่น สาธารณัฐเช็ก โปแลนด์และสโลวัก ซึ่งต่างก็เป็นประเทศที่เคยถูกคุกคามจากคอมมิวนิสต์และเผด็จการ จึงมีความเข้าใจต่อสภาวะของไต้หวันได้เป็นอย่างดี การที่ลิทัวเนียยินยอมให้ใช้ชื่อไต้หวันในการตั้งสำนักงานตัวแทน แต่กลับถูกจีนใช้พฤติกรรมข่มขู่พร้อมทั้งมีมาตรการกีดกันทางเศรษฐกิจ นอกจากไต้หวันจะให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อสินค้าลิทัวเนีย ทั้งสหรัฐฯ และอียูต่างก็ให้ความช่วยเหลือทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือระหว่างกันของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย
ในปีที่ผ่านมา หลังการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของเยอรมนี รัฐบาลผสมได้แสดงความห่วงใยต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน พร้อมแสดงความสนับสนุนให้ไต้หวันได้มีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ Frankfurter Allgemeine Zeitung เป็นหนึ่งในหนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียงระดับชาติของเยอรมนี โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1949
